Why you need a vehicle in U.S.A?

ทำไมคุณต้องมีรถขับในอเมริกา?

 

ก่อนอื่นต้องขอออกตัวก่อนนะคะ ว่า “ไม่ใช่ นักเล่นรถมืออาชีพ หรือเซียนมาจากไหน”  แค่มาให้คำแนะนำกับกลุ่มที่ไม่เคยมีรถ อยากมีรถ รุ้สึกทรมานไปไหนไม่ได้ และจะเน้นกลุ่มที่กำลังจะมาอเมริกา เพิ่งมาอเมริกา กลุ่มแม่บ้านต่าง ๆ นะคะ.

 

เมื่อปีที่ แล้วได้เขียนถึงการซื้อ หรือ เช่ารถของกิจการ ทุกขนาด เล็ก ๆๆ เล็ก กลาง ใหญ่ หรือ และทั้งที่จดทะเบียนและไม่จดทะเบียน (มีทะเบียนการค้า)  ว่าไหนเหมาะสำหรับกิจการดี.

 

งานนี้คนละส่วนกันนะคะ  สำหรับบุคคลธรรมดา เรา ๆ ทั่วไปนี่แหละค่ะ.  รถก็เหมือน “ขา” คะ ไมมีรถก็ต้องใช้บริการ แท็กซี่ หรือ บริการขนส่งสารธารณะต่าง ๆ. ซึ่งแล้วแต่เราจะสะดวกนะคะ.

 

ประเทศอเมริกา แบ่งการปกครองเป็นเมืองในรัฐเป็นรัฐ ในประเทศ บางรัฐ ก็เมืองมาก (เหมือนกรุงเทพ รถติด คนเยอะ) เช่น นิวยอรค แต่ก็มีชนบท เยอะพอสมควร  ส่วนใหญ่ เมืองจะกระจายออกไป  คนไม่มีรถ ไม่มีใบขับขี่ เดินไปไหนก็ยากลำบาก อึดอัดทรมานหัวใจมาก. มาอยู่อเมริกาครั้งแรก  ไม่ค่อยกังวัลว่าจะมีใบขับขี่หรือเปล่า นึกว่าเหมือนกรุงเทพเนอะ  เดินไปไหนก็ได้.  อ้ายหยา!  เดินไม่ได้นี่หว่า  ต้องมีรถ ขับไปโน่นนี่ เลยจำต้องขัดขับรถ  มีใบขับขี่ และต่อมาก็มาหารถที่จะขับ.

 

เนื่องจากเป็นมือใหม่ในการขับรถ แฟนก็จะให้ขับรถเก่าที่เขาใช้อยู่มาหลายปี (แบบว่าถ้าซวยมีอุบัติเหตุจะได้ไม่ต้องกังวลมาก)  เราก็เป็นคนระวังตัวอยู่แล้ว ข้บรถใหม่ ๆ จะช้า และถูก บีบแตร ใส่ทุกอาทิตย์เวลาขับรถไปทำงาน ซึ่ง ณ ปัจจุบัน ก็มีเสียงแตรมาเรื่อย ๆ (และไม่ทราบสาเหตุ J). 

 

• ซื้อ [Purchase] เหมาะสำหรับกลุ่มรักเดียวใจเดียวและไม่ค่อยหรูหรา (มาก)

 

 

 

โดยภาพรวม คิดว่ารถยนต์ที่อเมริกา ราคาถูกกว่าที่ไทย พอสมควร โดยเฉพาะรถมือ สอง สาม สี่ห้า ขึ้นอยู่กับสภาพ และก็ต่อรองได้.  เพราะคนอเมริกันบางกลุ่ม นิยมการเช่ารถ.  โดยเฉพาะที่อเมริกา มีธุรกิจรถเช่าเยอะมาก  ทุกสามปี จะปล่อยรถออกมาขายตามท้องตลาด  เพราะ กลุ่มทำธุรกิจรถเช่า จะหลีกเลี่ยงความเสี่ยงเรื่องรถเก่าที่มีอายุมากกว่า สามปี.  ประหยัดค่าประกันภัยรถยนต์  ซึ่งไม่ใช่ถูก ๆ เลย โดยเฉพาะที่ แอตการซื้อรถแบบที่เราตั้งใจจะถือครองระยะเวลาใด เวลาหนึ่ง อย่าลืมว่ารถมีค่าเสื่อมราคานะคะ อย่าลืม ราคาตกลงไปทุกปี แล้วเราก็ไม่ได้อะไร ได้ใช้งาน เป็นปัจจัยที่ ห้าไปเลยสำหรับคนในอเมริกา. เว้นแต่อยู่เมืองไหญ่ ๆ อย่าง นิวยอรค ไรเงี๊ยะ อาจจะไม่จำเป็น.

 

ที่อเมริกา ถ้าเรามีเครดิตสกอร์ดี ๆ ซื้อรถนี่แบบไม่ต้องดาวน์สัก ดอลล่าร์เยอะค่ะ ดอกเบี้ย 0 เปอรเซ็น 5-7 ปี จัดไป ผ่อนกันไปตราบที่ชีวิตยังมิหาไม๋.

 

สำหรับคนที่เพิ่งมา เช่นวีซ่าทำงานประเภทต่าง ๆ หรือวีซ่านักลงทุน ไม่เคยมีเครดิตสกอร์ จะผ่อนไม่ได้แบบไม่วางเงินดาวน์ค่ะ  ต้องวางดาวน์เยอะ ๆ เลย เขาถึงให้ผ่อน  อันนี้รวมถึงกลุ่มอเมริกัน ที่ห่างหายจากอเมริกาไปนานแสนนานนะคะ ต้องดาวน์เยอะ ๆๆๆ.

 

กลุ่มเครดิตสกอร์ดีน้อยมากๆๆๆ ถึงไม่ดีเลย  ก็ผ่อนได้ค่ะ อยู่ที่การเจรจาต่อรอง  ดอกเบี้ยจะพิเศษกว่าชาวบ้านหน่อยคือ สูงกว่าปกติ  ผ่อนไปสักสองสามปี ไปขอ เจรจา refinance (คือการขอกู้ใหม่ค่ะ) ใหม่ได้ หรือการขอลดดอกเบี้ยได้ค่ะ เพราะถ้าคุณผ่อนไร ได้สักสองสามปี คุณเป็นคนมีวินัยทางการเงินค่ะ เครดิต ท่านก็จะพุ่งกระฉูดรวดเร็ว เหมือนติดเทอร์โบว์.

 

แล้วกลุ่มที่เพิ่งมา เพิ่งสร้างเครดิต ทำไงดี ได้ทำงานสองปี ไม่รู้ว่าอาจจะถูกไล่ออก ต่อวีซ่าไม่ได้  ก็อย่าเพิ่งนึกถึงจุดนั้นค่ะ  ถ้านายจ้างมีรถรับส่งก็ไม่ต้องเดือดร้อนค่ะ  เท่าที่ทราบ คนมาทำงาน นายจ้างจะหาที่พัก หารถให้ขับนะฮ้า.  (แต่คุณสอบใบขับขี่ผ่านปะแค่นั้นเอง).

 

• เช่าซื้อ Leasing ส่วนใหญ่กลุ่มชอบการเปลี่ยนแปลง

 

 

เท่าที่ทราบกลุ่มคนธรรมดาทั่วไปที่เช่ารถ เพราะ ไม่อยากรับภาระการซ่อมบำรุง. ชอบความเปลี่ยนแปลง  เพราถ้าเลือกดี ๆ รถเช่า เปรียบเทียบกับค่าผ่อนรถแทบจะไม่แตกต่างกัน และมีส่วนลดมากกว่าด้วย.  การเช่ามี ทางเลือกให้เราหลังหมดสัญญาเช่า ซึ่งโดยทั่วไปคือ สามปี ว่าเราจะซื้อต่อหรือไม่  ถ้าซื้อต่อ จะได้ซื้อต่อในราคาเท่าไร  ซึ่งคิดออกมาแล้วก็ไม่ได้แตกต่างกับการซื้อใด ๆ เลย.

 

ข้อจำกัดของการเช่ารถคือ ทาง บริษัทขายรถ จะจำกัดระยะทาง (ไมลล์) รถที่สามารถขับได้ต่อปี เช่นปีละ ไม่เกิน 10,000 mileages.  สามารถต่อรองที่จะเพิ่มระยะทางได้ แต่จะมีค่าเช่ารถเพิ่มเติม

 

สัญญาเช่าส่วนใหญ่จะไม่เกิน 3 ปี ซึ่ง ทำให้เราไม่ต้องกังวลเรื่องค่าซ่อมแซม รถใหม่ ส่วนใหญ่จะไม่ค่อยมีปัญหาเรื่องค่าซ่อมบำรุงรักษา

 

ข้อเสียของการเช่ารถคือ เมื่อเราได้มีการเซ็นสัญญาเช่า เราไม่สามารถเปลี่ยนแปลงได้ เช่น ถ้ารถถูก ขโมย หรือรถมีอุบัติเหตุ ที่เราไม่สามารถใช้รถต่อได้ แต่เรายังต้องจ่ายชำระค่าเช่ารายเดือน

วิธีป้องกันเรื่องการลักขโมย  ให้ซื้อประกันที่คลอบคลุมทั้งการลักขโมย และอุบัติเหตุต่าง ๆ เพื่อว่าประกันจะได้ครุ้มครองและจ่ายค่าเช่าส่วนที่เหลือ

 

Things to consider before buy or lease your vehicle

ก่อนจะตัดสินใจเช่าหรือซื้อควรพิจารณาสิ่งต่อไปนี้

 

 

 

ให้ดูว่า ค่าผ่อนรถแต่ละเดือน มีดอกเบี้ยเท่าไร ภาษีเท่าไร และการเช่ารถนั้น ค่าผ่อนเท่าไร ระยะเวลาที่เราเช่าซื้อ กับระยะเวลาผ่อน บวกดอกเบี้ย คำนวณออกมารูปแบบไหนดีกว่ากันค่ะ ไม่ยากเลย ใช้การคำนวณคร่าวๆ ง่าย ๆ

 

จะซื้อ จะเช่า ทั้งกิจการ หรือ ส่วนบุคคล ถ้าไม่ได้ซื้อด้วยเงินสด ยังไงก็มีค่าผ่อน ที่เกิดขึ้นประจำ ที่สำคัญค่าผ่อนรถ จะมากกว่าเช่ารถแน่นอนคะ

 

ถ้าเป็นคนชอบรถหรู ราคาแพง และเปลี่ยนรถบ่อย แนะนำให้เช่าดีกว่าคะ คุ้มกว่า ประหยัดกว่ามาก โดยเฉพาะรถพวก Benz, Volvo, Land Rover, etc., ถ้าเป็นพวกรถญี่ปุ่นนี่  ซื้อดีกว่าคะ อย่าเช่า ยังไงเขาก็ราคาไม่ตก

 

ไม่ว่าคุณจะเช่าหรือจะซื้อรถ คุณต้องมีประกันรถยนต์ค่ะ ตามความเหมาะสมที่อเมริกา อย่าให้ประกันขาด  ถ้ารถใหม่ก็ซื้อประกันป้องกันการสูญหายด้วยเลยยิ่งดีนะคะ.

 

การผ่อนรถ และการเช่ารถ ช่วยสร้างเครดิตสกอร์ได้ดีอย่างหนึ่งค่ะ  คนที่เครดิตสกอร์แย่ ๆ นี่น่าจะจัดไปนะคะ เพราะ การผ่อนรถ จะยืดหยุ่นมากกว่าการซื้อบ้าน การผ่อนประเภทอื่นๆ เห็นคนเครดิตไม่มีเลย หรือ แย่ สร้างเครดิตได้รวดเร็วคือการทำธุรกรรมเกี่ยวกับรถนี่แหล่ค่ะ

 

 

ประสบการณ์ของผู้เขียน

 

 

ถ้าเป็นคนไม่ยึดติดว่ารถ ต้องหรู ต้องดี แค่ใช้งานได้ รถคือ พาหนะ (อันนี้คือความคิดส่วนตัวเลยคะ)  ซื้อดีกว่าค่ะ ซื้อรถที่ราคาไม่ตก ไม่อายุมากขึ้น ใช้ได้สัก 10-20 ปี มีค่าซ่อมแซมบ้าง หลังจากรถผ่อนหมด ยังไงก็ประหยัดกว่าเช่าซื้อค่ะ  อีกอย่างถ้าเราไม่มีรายได้ประจำ ตกงาน เราไม่ต้องกังวล (เลี่ยงไม่ได้กรณีต้องผ่อนรถ แล้วตกงาน อันนี้ถือว่า มีกรรมเก่าค่ะ)  ปล. ล่าสุดรถที่ขับมาตั้งแต่ย้ายมาอเมริกา เกือบ สิบเอ็ด (11) ปีนั้น มีอันต้องจากลาจากครอบครัวเรา. ผูกพันมาก แต่ต้องลากจากเพราะค่าซ่อมทำเครื่องใหม่ ถึง หกพันเหรียญดอลล่าร์  บังเอิญตัวเองชอบรถ จี๊ปนะคะ  รถคันนี้อายุท่านก็ สิบเจ็ดปีครึ่งนะคะ (17 ½)”

 

ถ้ามีกิจการส่วนตัว เช่นร้านอาหาร ร้านนวด หรือกิจการรูปแบบอื่นที่ไม่ได้ทำงานประจำด้วย ก็จะซื้อ หรือ เช่าในนามกิจการแน่นอนคะ เพราะอยากใช้หัก เป็นค่าใช้จ่ายได้ทั้งก้อน ถ้ารถหมดสัญญาเช่า เราก็สามารถซื้อต่อได้ มาหักค่าเสื่อมราคาต่อ พอรถหักค่าเสื่อมหมด อยากได้รถใหม่ก็ซื้อใหม่ ส่วนรถเก่าก็ขายออกไป หรือ ให้เป็นโบนัสกับพนักงานที่ทำงานที่ดีไปเลยคะ

 

 

ที่มา                                         :         เขียนและเรียบเรียง จากประสบการณ์ตรง

เรียบเรียงโดย                         :            แหวนเพ็ชร วังคีรี โรลล์  

วันที่                              :                    30 พฤศจิกายน 2560 (2017)