2016 Election and Taxes Policies

2016 Election and Taxes Policies

นโยบายด้านภาษีของว่าที่ประธานนาธิปดีสหรัฐทั้งสองท่าน

ภาคสองต่อจากฉบับที่แล้วค่ะ หลายท่าน อาจจะรอหัวข้อนี้อยู่. ข้อมูลนี้ได้มาจากนักวิชาการด้านวิชาชีพบัญชีและภาษีโดยตรงค่ะ.  ท่าน ๆ ควรจะทราบนะคะ กลุ่มวิชาชีพด้านนี้จะมีจรรยาบรรณในการประกอบวิชาชีพที่สูงมากตามมาตราฐานทั่วไป พูดโดยภาพรวมนะคะ (แต่ใช่ว่า ทุกคนจะมีมาตรฐานเดียวกันนะคะบอกไว้ก่อน).  แหวนค่อนข้างมั่นใจว่าข้อมูลที่ได้มาไม่ได้ มโน หรือซี้ซั๊วแน่นอนค่ะ ว่ากันตามเนื้อผ้า. เข้าเรื่องดีกว่าเนาะ. *ก่อนเข้าร่วมขอให้เครดิตพี่ CPA ระดับอวุโสที่พี่ท่านได้กรุณาส่งข้อมูลมาให้อีกต่อหนึ่งค่ะ (พี่แกกว้างคะแต่มิได้ประสงค์จะออกนาม).*

image_269303fOverall ภาพรวม

โดยภาพรวมนะคะ คุณฮิล มีนโยบายจะขึ้นภาษีสำหรับผู้มีรายได้สูงค่ะ คือมากกว่า $200,000 ต่อปีขึ้นไปถึงจะกระทบ. ส่วนคุณทรัมพ์จะลดภาษีทุกประเภทค่ะทุกกลุ่มคะ รายได้น้อยมากได้ลดหมด. เรามาเจาะลึกถึงรายละเอียดแบบที่สรุปมากันดีกว่าค่ะ. Lady first is always JJ

♣Clinton’s policies นโยบายของคุณฮิลลารี่คะ

“America is great already, let’s make it greater”

คุณฮิล เชื่อว่าอเมริกาเป็นประเทศที่ดีเยี่ยมอยู่แล้ว มาช่วยกันทำให้อเมริกาดีขึ้นดีกว่างั้น. มีนโยบายว่า ดังนี้ค่ะ

1.) Individual Capital Gain คือกำไรจากการลงทุนสำหรับบุคคลธรรมดาทั่วไปค่ะ. เน้นหนักสำหรับกลุ่มที่เสียภาษีอยู่ที่ 39.6% คือกลุ่มที่เสียภาษีสูงสุดเพราะรายได้เยอะ. ใครที่ขายทรัพย์สินที่ถือครองมาต่ำกว่า 6 ปีนี่เจอแน่นอนค่ะ.

คุณฮิลจะเพิ่มภาษีเรียกว่า Sure tax at 3.8% มีผลให้กลุ่มที่ขายทรัพย์สินที่ถือครองต่ำกว่า 2 ปี เจอภาษีรวมอยู่ที่ 43.4% ของกำไรเลยค่ะ. ถ้าทรัพย์สินถือครองมานานกว่า 6 ปี อัตราภาษีจะอยู่ที่ 23.8%. ตัวอย่างนะคะ ถ้าทรัพย์สินที่ถือครอบระหว่าง 3-4 ปี ก็จะเจออัตราภาษีที่ 35.8%.

หมายเหตุนะคะ สำหรับผู้ที่เสียภาษีอัตราสูงสุด 39.6% ปี 2016 อยู่ที่ $466,951 สำหรับคู่สมรสที่ยื่นภาษีรวมกันค่ะ.

2.) คุณฮิลจะเพิ่ม Sure charge tax สำหรับกลุ่มรายได้มากกว่า $5,000,000 แต่มิรู้อัตราภาษี ค่ะ (ประทานอภัย)

3.) Social Security Tax คุณฮิลจะเพิ่มเพดานเงินเดือนที่ต้องหัก social security ค่ะ ปัจจุบันจะมีเพดานอยู่ที่ $118,500 คลิกไปที่ลิงค์จะมีตารางของปี 2017 ให้พร้อมสรรพคะ Contribution and Benefit Base อธิบายเพิ่มเติมคือว่า ถ้าคนเงินเดือนมากกว่า $118,500 หรืออาจจะอยู่ที่ $200,000 ก็ถูกหักประกันสังคมแค่ยอดที่ $118,500 คะ.  จุดประสงค์คือต้องการหาเงินเพิ่มทุนเข้ากองทุน เพื่อจะได้มีเงินจ่ายให้คนที่เกษียณ ณ ปัจจุบันคะ.

4.) สานต่อนโยบายคุณโอบาม่าค่ะ เรื่อง itemized deduction หรือค่าใช้จ่ายจริง ยกเว้น กลุ่มไม่แสดงหากำไร Not-for profit organization .

5.) Buffet Rule ไอเดียน่าจะมาจากคุณ บัพเฟ่มหาเศรษฐีของอเมริกานะคะ ฮีแนะนำให้หักภาษีที่อัตรา 30% กลุ่มที่มีเงินรายได้มากกว่า $1,000,000. ตีความว่านี่คือถ้าใครมีรายได้หลังหักค่าใช้จ่ายแล้วเหลือ ล้านเหรียญนี่คือเจอค่ะ (อยากไปอยู่จุดนี้จัง ทำไงดี) ♫♫ เต็มใจเสียภาษีเต็มที่เลยค่ะ.

6.) Lower-and middle-incomers กลุ่มรายได้ต่ำหรือกลุ่มชนชั้นกลางจะได้ผลประโยชน์สูงสุด คือ จะเพิ่ม Child Tax Credit to $2,000 ต่อคนและให้ถึงครอบครัวละ 4 คน. ใครมีลูกเยอะเท่าไรก็ได้แค่ 4 คนนะคะ เตือนไว้ก่อน. ค่า ดูแลผู้สูงอายุก็จะให้ถึง $1,200 ต่อคน เนื่องจากอัตราส่วนที่ลูก ๆ ดูและพ่อแม่ที่บ้านสูงขึ้นคะ  งานนี้ใครมีพ่อแม่มาอยู่ด้วย เฮกันไปเลยได้ค่าดูแลพ่อแม่มาช่วย.

7.) Health Care Credit ได้เครดิตสำหรับกลุ่มที่จ่ายค่าเบี้ยประกันสุขภาพค่ะ กล่าวไปไว้ก่อนหน้านี้

 

♣Trump’s policies นโยบายของคุณทรัมพ์คะ

“Let’s make America Great Again”

คุณทรัมพ์ เชื่อว่าอเมริกาตอนนี้สภาพแย่มากหลาย ๆ ด้าน ดังนั้น มาทำให้อเมริกาเป็นประเทศที่ยอดเยี่ยมอีกครั้งว่างั้นค่ะ. ฮีมีนโยบายด้านภาษีดังนี้คะ

1.) Reduce individual tax rate คุณทรัมพ์ จดลดภาษีให้ทุกคนเลยคะ ลดฐานภาษาลงมาอยู่ที่

12%, 25% and 33%. สำหรับคู่สมรสที่ยื่นภาษีร่วมกัน อัตราภาษีเริ่มที่ 12% สิ้นสุดที่  $75,000, หลังจากนั้นก็เริ่มคำนวณที่  25% จนถึงยอด $225,000 และหลังจากนั้นถึงเริ่มคำนวณที่ 33%. โปรโมชั่นใหญ่หลวงเลยงานนี้ ♫♥♫♥ คนโสดหรือคู่สามีภรรยาแยกยื่นก็หารสองไปคะ คำนวณแบบง่ายๆ กันไปเลย.

2.) 15% Business rate หมายถึงว่า ธุรกิจขนาดต่างๆๆ รวมถึงคนรับจ้างทำงานอิสระก็เสียภาษีอัตรานี้อัตราเดียวค่ะ ยิ่งกว่า โปรโมชั่นอีก 5555.

3.) Standard deduction ค่าใช้จ่ายแบบมาตราฐานที่คนทั่วไปใช้ ในกลุ่มที่ไมมีบ้าน ไม่มีดอกเบี้ยบ้านหรือภาษีมาหัก (โดยส่วนใหญ่) เพิ่มไปที่ $30,000 สำหรับคู่สมรสยื่นร่วมกัน (ปัจจุบันอยู่ที่ $12,600). $15,000 สำหรับคนโสด. กำจัด head of household ออกจากระบบไปเลยคะ กลุ่มนี้คือกลุ่มที่โสด หรือพ่อหม้ายแม่หม้ายทั้งหลายที่มีลูกติดนะคะ.

4.) Capital gain tax at 20% กำไรจากการขายทรัพย์สินค่ะ ไม่เปลี่ยนค่ะ เก็บไว้เหมือนเดิม. Surtaxes สำหรับคนที่มีรายได้สูงจะมีภาษีนะคะ ที่ 0.9% และ 3.8% สำหรับภาษีประกันสุขภาพกลุ่มที่มีรายได้สูงค่ะ.

5.)  TOSS Alternative Minimum Tax (AMT), Estate and Gift Tax ฮียกเลิกภาษีทางเลือกและภาษีของขวัญ พร้อมภาษีกองมรดกไปเลยค่ะ ห้ามเก็บเป็นอันขาด. งานนี้ใครอยากให้ของขวัญใครให้ไปเลยคะ ไม่มีจำกัด ♫♫

6.) Expand dependent care breaks ฮีจะขยายหรือให้โอกาสผู้ที่ทำงานอยู่กับบ้าน ผู้ที่ดูและเล็กๆ คนแก่ๆๆ. จะเพิ่มให้ค่ะแต่ไม่รู้เท่าไรนะคะ.

7.) Itemized deduction หรือค่าใช้จ่ายแบบเหมาจ่ายนะคะ จะเพิ่มให้ไปที่ $200,000 สำหรับคู่สมรสยื่นรวม และที่ $100,000 สำหรับกลุ่มคนโสดค่ะ. กฏหมายปัจจุบันเกี่ยวกับตัวนี้ ถ้าคู้สมรสที่มีรายได้มากกว่า $309,000, แม่หม้ายพ่อหม้าย อยู่ที่ $284,050, คนที่โสด มีลูกติดอยู่ที่ $258,250 คนโสดอยู่ที่ $154,950  กลุ่มต่าง ๆ เหล่านี้ถ้ามีรายได้มากกว่านี้ถึงจะมีข้อจำกัดค่ะ ต่ำกว่านี้มีมาเท่าไรหักได้หมดค่ะ อ่านกฏหมายเพิ่มเติมได้ที่นี่ค่ะ Limit on itemized Deductions

Analysis วิเคราะห์

♣การแก้กฎหมายด้านภาษีนั้นก็เหมือนกับการแก้กฎหมายอื่นๆ ค่ะ ต้องผ่านทั้งสภาล่างและสภาสูงและประธานนาธิบดีเซ็นอนุมัติกฎหมายเพื่อประกาศใช้แบบเป็นทางการ. ตั้งแต่ปี ตั้งแต่ 2014 ถึงปัจจุบัน Republican มีเสียงข้างมากทั้งสภาล่างและสภาสูงคะ.

♣ เนื่องจากคุณฮิลเชื่อว่าประเทศดีอยู่แล้วถึงไม่ได้เปลี่ยนแปลงกฎหมายภาษีมากนักแต่ จะเรียกเก็บเงินกับกลุ่มที่มีรายได้มากกว่า $400,000 ต่อปี หรือกลุ่มแบบรวย ๆๆ. เก็บภาษีเพิ่มขึ้นเพื่อใช้จ่ายมากขึ้นหรือว่าเอาไปใช้หนี้ หรือว่าเอาไปใช้จ่ายด้านไหน??

♣ คุณทรัมพ์เชื่อว่าอเมริกาอยู่ในสถานการณ์ที่ย่ำแย่มาก ต้องการทำให้อเมริกา บูมบูมอีกครั้ง จึงต้องการลดภาษีให้ทุกกลุ่มทุกเหล่า. ว่ากันไปตามหลักเศรษฐศาสตร์การลดภาษีทำให้คนมีอำนาจจับจ่ายใช้สอยมากขึ้น มีผลทำให้เศรษฐกิจดีขึ้น. “เอ๊ะ แล้วถ้ารัฐบาลลดภาษีให้ทุกกลุ่มแบบนี้แบบเกือบครึ่ง แล้วรัฐบาลจะมีรายได้มาเสริมจากแหล่งไหน เพื่อบริหารภายในประเทศ? หรือว่าต้องลดค่าใช้จ่าย? เช่นพวกสวัสดิการต่าง ๆ ให้กับคนรายได้ต่ำ หรือไม่ต้องบำรุงถนนหนทาง หรือให้ระดับรัฐบริหารจัดการกันเอง??

♣ อเมริกาเป็นประเทศที่พัฒนาแล้ว ใครได้มาเป็นประธานาธิบดี อาจะแตกต่างมาก แตกต่างน้อยขึ้นอยู่กับหลายๆ ปัจจัยที่อำนวย มีตัวอย่างให้เห็นมากมาย หลาย ๆ ท่านที่อยู่อเมริกามานานจะเห็นความเปลี่ยนแปลงนี้. สังเกตว่าประเทศที่พัฒนาทั้งหลาย ที่มีสวัสดิการให้กับประชาชน มีอำนาจในการออกเสียงระดับนานาชาติ ล้วนเก็บภาษีสูงมาก ๆ จากประชากรในประเทศ. เอ๊ะ เรากำลังสื่ออะไรหว่า อย่าโมโหนะค้า JJ สำหรับท่าน ๆ ที่ไม่เห็นด้วย.

♣ใช้วิจารณญาณในการโหวดคะ เพราะเราต้องคำนึงถึงนโยบายหลาย ๆ ด้าน และภาพพจน์ของอเมริกาด้วย. และกรุณาใช้คำพูดสุภาพในการวิจารณ์แต่ละฝ่ายด้วยนะคะ JJ

♣ในที่สุดเราก็ทราบถึงนโยบายของทั้งสองท่านแล้วนะคะ มาคอยตรวจสอบดูว่าใครได้เป็นประธานนาธิบดีแล้วจะทำตามที่ว่ากล่าวได้หรือไม่อย่างไร ทำไมอีก 4 ปีข้างหน้านะคะ

 

แปลและเรียบเรียงขยายความเพิ่มเติม: แหวนเพ็ชร วังคีรี โรลล์ (ผู้สอบบัญชีรับอนุญาต)

ที่มา: ข่าวสารเผยแพร่ในกลุ่มวิชาชีพด้านบัญชี จากพี่ CPA อวุโสที่ไม่ประสงค์ออกนามคะ

 วันที่ 2 พฤศจิกายน 2559 (2016)