**การจัดตั้งบริษัทสำหรับนักลงทุน**
**Business formation for Investors**
บทความนี้จะเน้นให้ความสำคัญสำหรับนักลงทุนไทยที่ไม่มีกรีนการ์ดหรือเป็นพลเมืองของประเทศสหรัฐอเมริกา และ นักลงทุนที่มีหุ้นส่วนที่ถือกรีนการ์ด หรือ เป็นพลเมืองอเมริกานะคะ
หลาย ๆ ท่านอาจจะทราบว่ารูปแบบธุรกิจที่สามารถทำได้ในประเทศอเมริกามีหลายรูปแบบ
1.) Sole Proprietorship ไม่ต้องจดทะเบียนใด ๆ แค่จดทะเบียนการค้ากับรัฐก็ทำธุรกรรมใด้
2.) Partnership ต้องจดทะเบียนที่รัฐพร้อมมีสัญญาระหว่างหุ้นส่วน
3.) Limited Liability Company การจดทะเบียนยืดหยุ่นสามารถจดทะเบียนในรัฐที่ต้องการทำธุรกิจ รัฐที่อยู่อาศัย หรือรัฐที่อำนวยความสะดวกทางโครงสร้างของภาษี
4.) Corporation การจดทะเบียนสามารถทำได้เหมือนกับข้อ 3. คะ
สำหรับผู้ที่ถือกรีนการ์ดหรือเป็นพลเมืองของอเมริกา จะนิยมในการจดทะเบียนในรูป Limited Liability Company เพราะส่วนใหญ่ขั้นตอนการจดทะเบียนจะง่าย แต่รูปแบบ Corporation ก็เป็นที่นิยมเช่นกัน บางรัฐขั้นตอนการจดทะเบียนไม่แตกต่างกันเลย แค่แบบฟอร์มที่ใช้แตกต่างกันเท่านั้น. ทั้งสองรูปแบบสามารถเลือกการเสียภาษีแบบ Small Corporation (S-Corp) ได้ในทางภาษีอากรคะ แต่ห้ามมีต่างชาติถือหุ้นคะ.
เนื่องจากข้อจำกัดเรื่องการเลือกการเสียภาษีแบบ S-Corp ที่อำนวยความสะดวกเฉพาะคนที่อาศัยที่อเมริกา แหวนได้ค้นคว้าเพื่อที่จะทราบว่า ข้อดีข้อเสียของการจดทะเบียนแบบ ข้อ 3 หรือ ข้อ 4 จะดีกว่ากัน สำหรับนักลงทุนไทยที่ต้องการมาลงทุนที่อเมริกา และหรือ มีหุ้นส่วนที่เป็นซิติเซ่น และกรีนการ์ด ร่วมลงทุนด้วย.
**Limited Liability Company**
รูปแบบนี้ ใช้ Operating agreement ในการกำหนดการบริหารภายในกิจการคะ สามารถระบุเงื่อนไขทุกอย่างไว้ในเอกสารฉบับนี้ และสามารถแก้ไขได้คะ
ส่วนการรายงานผลกำไรขาดทุนของกิจการนั้นเมื่อหมดรอบบัญชีมีการรายงานผลกำไรขาดทุน ไปยังสมาชิก (Member) เช่น นักลงุทนมีหุ้น 50 เปอรเซ็นและ ญาติซึ่งถือกรีนการ์ดมีหุ้น 50 เปอรเซ็น สมมติว่าบริษัทมีกำไร สุทธิจากผลประกอบการ $50,000 เหรียญ ครึ่งหนึ่งแบ่งให้นักลงทุนไทยตาม Schedule K-1 ไปที่ $25,000 และ ญาติอีก $25,000 ทั้งคู่ไม่มีรายได้อื่นๆ เลยมีแค่รายได้จากการแบ่งผลกำไรเท่านั้น สมาชิกในบริษัทมีหน้าที่คำนวณ Self employment tax at 15% from $25,000
ข้อดี คือบริษัทไมมีหน้าที่ต้องเสียภาษีคะ แค่ต้องทำงบการเงินยื่นภาษีใช้แบบ 1065 นำส่งไปยัง Internal Revenue Service (IRS). รูปแบบนี้เหมาะกับ กรีนการ์ด หรือ ซิติเซ่นคะ สะดวกในการจดทะเบียนผลประโยชน์ด้านภาษีสูงสุดคะ.
ข้อเสีย คือ ผู้ถือกรีนการ์ดหรือพลเมืองจะเสียเปรียบคะ เพราะไม่สามารถเลือกเสียภาษีรูปแบบ S-Corp และต้องเสีย Self employment tax at 15%. ถ้าไม่มีผู้ถือหุ้นต่างชาติสามารถใช้สิทธิ์ S-Corp ได้และไม่ต้องนำส่ง ภาษี 15% (แต่ทาง IRS ระบุไว้ว่าต้องจ่ายเงินเดือน ซึ่งสามารถกำหนดได้ตามราคาตลาด และส่วนใหญ่จะไม่เท่ากับกำไรสุทธิของกิจการทั้งก้อน)
**Corporation**
รูปแบบการจดทะเบียนของ Corporation จะแตกต่างกับ LLC ตรงที่การออกใบหุ้นให้กับผู้ถือหุ้นคะ เช่น จดทะเบียนไว้ 200,000 หุ้นกับรัฐที่จะลงทุน แล้วขายหุ้นออกให้กับนักลงทุน ไปถ้าขายหุ้นแค่ 100,000 หุ้น ยังเหลือหุ้นที่สามารถขายเพื่อเพิ่มทุนได้อีกค่ะ. กรณีนักลงทุนจากเมืองไทยสามารถทำได้เช่นกัน แต่ต้องอย่าให้อัตราส่วนของการลงุทนต่ำกว่า ห้าสิบเปอรเซ็น (50%) ของหุ้นที่ออกคะ เช่น ออกหุ้น 100,000 คนไทยถือหุ้น 50,000 และกรีนการ์ด หรือซิติเซ่นถือไว้ 50,000 ยังนี้ยังถือว่าใช้ได้คะ (กรณีต้องการขอวีซ่านักลงทุน).
เอกสารที่ต้องใช้คือ Corporate by law, Article of Incorporation, Shareholder Meeting. ดูเหมือนจะเอกสารเยอะกว่ารูปแบบ LLC คะ แต่การจัดตั้งไม่ได้ยุ่งยากอะไร เอกสารเหล่านี้จะมีมาตราฐานซึ่งเราสามารถหาซื้อได้คะ ถ้าจ้างคนจดทะเบียนเขาก็จะจัดการให้เราเรียบร้อยคะ.
สำหรับการรายงานผลกำไรขาดทุนของกิจการจะใช้ฟอร์ม 1120 ค่ะ เหมือนกับกิจการบริษัทที่ประเทศไทย ผลกำไรสุทธิ จะมีการหักภาษีและนำส่งไปยัง IRS and State ค่ะ.
ข้อเสีย คือภาษีเสียในรูปของบริษัท จะไม่ผ่านมายังผู้ถือหุ้น ส่วนใหญ่กิจการขนาดเล็กเช่นร้านอาหารที่พบมา กำไรสุทธิต่อปีจะไม่เกิน $100,000 สำหรับร้านเล็ก ๆ นะคะ การเสียภาษีของรูปแบบ Corp จะเป็นอัตราก้าวหน้าคะ และถ้ามีการจ่ายเงินปันผล เงินปันผลก็ต้องนำไปคำนวนรวมกับรายได้ของผู้ถือหุ้นอีกทอดหนึ่งคะ.
3.12.16.21 (01-01-2016) Corporate Income Tax Rates Section 16. Corporate Income Tax Returns (Cont. 2)
15% for Profit not over $50,000 เสียภาษีไม่เกิน $7,500
25% for profit not over $75,000 เสียภาษีไม่เกิน $13,750
34% for profit not over $100,000 เสียภาษีไม่เกิน $22,500
39% for profit not over $335,000 เสียภาษีไม่เกิน $113,900
34% Flat rate for profit over $335,000.
ดูเหมือนรูปแบบ Corporate จะเสียภาษีสูงคะที่อเมริกา แต่กิจการขนาดใหญ่ ๆ จะนิยมใช้รูปแบบนี้เพราะง่ายต่อการจ่ายเงินปันผลคะ ทุกอย่างว่ากันตามหุ้น ไม่เหมือนรุปแบบ LLC ซึ่งออกแบบเพื่อกิจการขนาดเล็ก.
ข้อดีคือ ผู้ถือหุ้นไม่ต้องกังวลเรื่อง Self – Employment Tax at 15% จากกำไรสุทธิคะ ถ้าไม่มีการจ่ายเงินปันผล ก็ไม่มีอะไรต้องนำมาคำนวนภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา เนื่องจากกิจการได้เสียภาษีไปแล้ว.
ที่สำคัญคือกรณีที่มีการกู้ยืมเงินมาลงทุนแล้วเจ้าของเงินต้องการดูผลการดำเนินงานการของกิจการ การเสียภาษีในรูปบริษัทซึ่งแสดงให้เห็นถึงผลกำไรสุทธิ์หลังหักภาษี ซึ่งดีกว่ารูปแบบ LLC ที่ไม่มีภาระภาษีแต่สมาชิกในบริษัทต้องมารับภาระภาษีกันเองคะ.
**จากการวิเคราะห์ Analysis**
***การจดทะเบียน Business Formation***
การจะทะเบียนบริษัททั้งรูปแบบ LLC & Corporation ความยากง่ายขึ้นอยู่กับรัฐที่จดทะเบียนค่ะ โดยเฉพาะที่ California ยุ่งยากทั้งสองแบบคะ Corporation จะมีเอกสารเยอะกว่าหน่อยหนึ่ง แต่ภาพรวมแล้วยุ่งยากเหมือนกัน. เปรียบเทียบกับรัฐอื่นๆ จะง่าย ใช้เวลา 3-5 วันบริษัทก็มีผลตามกฏหมายของเสตทแล้ว แถมจดทะเบียนออนไลน์สะดวกด้วยคะ. ค่าธรรมเนียมแต่ละรัฐที่จดทั้งสองรูปแบบ แทบจะไม่แตกต่างกันเลยคะ อยู่ที่ $200 – $350 สำหรับรัฐที่ต้องมีการประกาศทางหนังสือพิมพ์ ก็จะมีค่าโฆษณาเพิ่มขึ้นมา.
***ภาษีที่เกี่ยวข้อง Business Taxes***
ในการวิเคราะห์คำนวนผลกำไร ของกิจการถ้าไม่เกิน $50,000 ต่อปี และมีการจ่ายเงินเดือนเท่าๆ กันในทั้งสองรูปแบบ และมีการจ่ายเงินเดือนให้กับนักลงทุนรวมกันที่ $40,000 ต่อปี. ถ้ารวมภาษี Self-Employment Tax แล้ว LLC เสียภีมากกว่า Corporation ที่ประมาณ $3,230 เหรียญ. อันนี้คือสมมติว่านักลงทุนเป็นคนโสดนะคะ แล้วสมมติเพิ่มไปอีกว่าไม่มีการจ่ายเงินปันผล. นักลงทุนคนไทยโสด ผู้ถือหุ้น มีกรีนการ์ด โสด และสมมติให้ภาษีฐานต่ำสุดที่ 10%, 15% นะคะ.
Corporation
Corporate Tax at 15% = $7,500 ($50,000 x 15%)
Personal Income Tax = $1,940 (($20,000 – $10,300)x 10% = $970)x2)
Total Tax = $9,440
LLC
Self-employment Tax = $3,750 ($50,000 x 15% = $7,500 / 2)
Personal Income Tax = $8,210 (($25,000 – $10,300 + $20,000 -$1,875) x 10% = $32,825
= $927.50 ($9,275 x 10%)
= $3,532.50 ($23,550 x 15%)
= $8,210 ($927.50+$3532.50=$4,460 x 2)
Total Tax = $12,670
Variances =$3,230 ($12,470 – $9,440)
การคำนวนข้างต้นสมมติการจ่ายภาษีแค่ 10% แต่รายได้หลังหักค่าลดลดหย่อนถ้ามากกว่า $37,650 ภาษีอยู่ที่ 15% ค่ะ ทำให้ รูปแบบ LLC ต้องเสียภาษีเพิ่มเข้าไปอีก. ดูตารางการคำนวนภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาได้จากลิงค์คะ Tax Brackets
**ขอบคุณพี่ CPA อวุโส ที่ให้เตือนนักลงทุนเกี่ยวกับ Passive Income เช่นรายได้จากค่าเช่า จะไม่มี Self-employment Tax 15% คะ**
ไม่ได้สนับสนุนรูปแบบ Corporation เพราะรักรูปแบบนี้เป็นพิเศษคะ สนุนเพราะกิจการขนาดเล็ก สามารถประยัดภาษีได้มากกว่า โดยเฉพาะ นักลงทุนจากประเทศไทยที่ไม่มีกรีนการ์ด หรือเป็นซิติเซ่น และร่วมลงทุนกับญาติ ๆ ๆหรือเพื่อน ๆ ที่นี่นะคะ ที่สำคัญลูกค้าแหวนทุกรายถ้าให้แหวนจดทะเบียนให้จะจด Corporation ให้หมดคะ ง่ายกว่าการบริหารจัดการ กรณีที่ผู้ถือหุ้นไม่ใช่คนที่ถือกรีนการ์ดและร่วมหุ้นกับอเมริกัน.
***ทำไงดีกิจการไม่เล็ก ๆ มีนักลงทุนรายใหญ่ต้องการลงทุนด้วย***
ถ้าเป็นกิจการร้านอาหาร ที่ขยายออกไปตามรัฐต่าง ๆ และเมืองต่าง ๆ ควรจะจดทะเบียนแยกเป็นบริษัท ออกไป ไม่ควรใช้นิติบุคคลเดียวคะ มีข้อดี หลายด้าน ทั้งด้านภาษีและทั้งระเบียบภายในรัฐที่เราลงทุน บางรัฐ เช่น ฟอริด้า ถ้ากิจการมีกำไรไม่เกิน $50,000 เหรียญต่อปี ภาษีของบริษัทไม่มีคะได้รับยกเว้น Texas รับยกเว้นมากถึง $3,000,000 แต่จะเสียเปรียบเรื่อง Corporate Income Tax ที่จะต้องเสียสูงสุดที่ 34% ค่ะ.
การจดทะเบียนแยก ถ้าเป็นร้านเล็ก ๆ เช่น มีพนักงานไม่เกิน 3 คน ไม่รวมเจ้าของกิจการ ทางรัฐไม่ได้บังคับเรื่องการซื้อประกัน worker compensation คะ แต่ถึงแม้ร้านจะเล็กก็ควรจะมีเพื่อประโยชน์ของพนักงานและกิจการ
การรายงานทิปไปยัง the IRS ถ้ามีพนักงานมากกว่า 10 คน ร้านมีหน้าที่รายงานคะ ถึงแม้พนักงานไม่รายงาน แหวนเคยเขียนบทความเกี่ยวกับการรายงานทิปว่าถ้ามีพนักงานมากกว่า 10 ร้านมีหน้าที่ยื่นแบบไปยัง IRS.
กิจการเล็ก ๆ ถ้ามีหลายกิจการรวมกันก็ถือเป็นกิจการใหญ่ๆ ได้คะ ไม่เสียหายอะไร ถึงแม้จะมีค่าดำเนินการเรื่องยื่นภาษีประจำปีเพิ่มขึ้น แต่ภาพรวมและผลประโยชน์ที่ได้รับด้านภาษีแล้วคุ้มกว่าคะ อีกอย่างการบริหารก็ง่ายกว่า ถ้ามีการตรวจสอบจากหน่วยงานราชการก็บริหารจัดการง่ายกว่าด้วยคะ.
เรียบเรียงโดย: แหวนเพ็ชร วังคีรี โรลล์ (ผู้สอบบัญชีรับอนุญาต)
ที่มา: Section 16. Corporate Income Tax Returns (Cont. 2)
และประสบการณ์จาการทำงานที่อเมริกามาเกือบ 10 ปี
วันที่ : 3 ตุลาคม 2559 (2016)
3.12.16.21 (01-01-2016)
Corporate Income Tax Rates
- The following corporate income tax rates apply to tax periods 199312 through present:
If Taxable Income on Page 1 is Over | But Not Over | Tax Is | Of The Amount Over |
$0 | $50,000 | 15% (percent) | $0 |
$50,000 | $75,000 | $7,500 + 25% | $50,000 |
$75,000 | $100,000 | $13,750 + 34% | $75,000 |
$100,000 | $335,000 | $22,250 + 39% | $100,000 |
$335,000 | $10,000,000 | $113,900 + 34% | $335,000 |
$10,000,000 | $15,000,000 | 3,400,000+ 35% | $10,000,000 |
$15,000,000 | $18,333,333 | $5,150,000 + 38% | $15,000,000 |
$18,333,333 | ….. | 35% | $0 |