Want to work in office in corporate America
อยากทำงานเป็นสาวหนุ่มออฟฟิตที่อเมริกา
วันนี้ได้คุยกับน้องอีกคนที่อยากเป็นสาวออฟฟิตที่อเมริกา แนะนำน้องไปหลายอย่างเหมือนกัน. และก็คอยแนะนำไปหลายคนทั้งที่รุ้จักกันเป็นการส่วนตัวเพราะอยู่ในรัฐเดียวกัน แต่ส่วนใหญ่จะแนะนำสาวบัญชีด้วยกันที่อยู่ต่างรัฐและไม่เคยเจอรุ่นน้องเหล่านั้นเลย แค่ส่งข้อความหามกันมามานานกว่าสิบปีก็ปี. น้องๆ หลายๆคน ได้ทำงานบริษัททั้งเล็กและใหญ่ที่อเมริกา บางคนก็เปลี่ยนงานบ่อย (แต่ยังไม่เท่ากับดิฉันค่ะ) น้องค่อนข้างจะอดทนมากกว่านะถึงอยู่ได้นาน หลาย ๆคนก็เจริญก้าวหน้าแต่ก็ไม่ได้ไปทักว่ามีความสุขไม๊กับการทำงาน เนื่องจากต่างคนก็ต่างมีภาระหน้าที่ที่พึงต้องกระทำในฐานะภรรยาและแม่ของลุกกันต่อไป.
เรื่องการหางานทำที่อเมริกา โดยเฉพาะการทำงานบริษัทเป็นสาวหนุ่มออฟฟิตนี่ ก็เป็นความฝันของหลายๆ คนที่เคยทำงานออฟฟิตมาจากไทย รวมถึงคนไม่เคยทำงานออฟฟิตเลยก็สนใจ. สนใจอยากทำงานออฟฟิตที่อเมริกา ตำแหน่งไหนก็ตาม ไม่ว่าจะเป็นธุรกิจ การเงิน บัญชี ต้อนรับลูกค้า งานด้านคอมพิวเตอร์ งานนั่งโต๊ะทุกแบบที่ไม่ต้องยื่นทำงานในสายการผลิตนะคะ. ทำอย่างไรดี เตรียมตัวเช่นไรถึงจะได้โอกาสนั้น.
ภาษาอังกฤษ Speaking, Writing, and Reading skills
ทักษะภาษาอังกฤษอยู่ในระดับไหน ลองพิจารณามองตัวเองก่อนก็ได้ค่ะ แล้วค่อยไปมองเทียบกับคนอื่น. เช่นนะคะ สาวออฟฟิตทำงานมา เรียนภาษาอังกฤษตามปกติในวิทยาลัย ไม่เคยใช้เลย ทำงานกับคนไทยมาตลอด หรือบริษัทคนไทย ถ้าแบบนี้ ควรจะสร้างความมั่นใจก่อนค่ะ ด่านแรกเลยไปเรียน ESL เรียนพูดอ่านเขียน บางคนบอกว่าง่ายๆ ถ้าง่ายๆ ก็สอบให้ได้ผ่านเลื่อนขั้นเรียนให้จบระดับสูงสุดค่ะ. มาอยู่อเมริกาก็ จะ 14 ปีละคะ เคยเจอพบปะพูดคุยกับคนที่บอกว่าเรียน ESL ง่ายแล้วพอมาเห็นเขียนภาษาอังกฤษตามsocial media นี่มองออกเลยค่ะต้องปรับปรุง คือเขาไม่ได้มาถามความเห็นเนาะเลยไม่ได้บอก ถ้าถามจะบอกว่าต้องไปเรียนเลย แกรมม่านะเขียนให้ถุกฝรั่งอาจจะอ่านออกเดาได้ แต่เขาจะมองว่าไม่มืออาชีพเหมือนไม่ได้เรียนมาจากโรงเรียนประมานนี้เลย.
หลาย ๆ คนอยุ่มาหลายปีทำงานเสริฟ พูดคล่องค่ะกับลูกค้าแสดงว่าจุดนี้ไม่ต้องห่วงเรื่องการพูด แล้วการเขียนละมั่นใจแค่ไหน เขียนอีเมลล์ตอบคำถามเจ้านายเพื่อนร่วมงานลุกค้าได้ไม๊ กรณีต้องประสานงานกับฝ่ายอื่นๆ ทำได้หรือไม่ ถ้ามั่นใจว่าคุณทำได้ก็ลองหางานค่ะ
การอ่าน ถ้าสามารถอ่านข่าว ได้ทั่วไป ศัพท์ยาก ๆ ก็เปิดออนไลน์ดิคชั้นน่ารี่นี่ก็ไม่น่าจะมีปัญหาอะไร แต่ไม่ใช่อ่านไม่ออกเลย ไม่รู้เลย ไปทางานก็มานั่งแปลภาษาอังกฤษนี่ ไม่น่าจะผ่านโปรละคะ.
ประสบการณ์จากไทย Work experience from Thailand
ที่เห็นๆ รุ่นน้อง ๆ ที่จบมาจากไทยแล้วมาเรียนแค่ภาษาเพิ่มแล้วได้งานนี่ก็เยอะค่ะ จะเป็นพวกงาน ด้านคอมพิวเตอร์ งานด้านวิชาชีพเช่นวิศวกร นักบัญชี สาวแบงค์เคยทำงานแบงค์ อาจจะได้งานกลุ่มแบงค์ เริ่มจากงานในเค้าเตอร์กอน สำหรับบัญชีรวมถึงดิฉันเอง มาเรียนภาษาเพิ่ม เรียนโปรแกรมควิกบุคเพิ่มได้ใบประกาศ ก็หางานได้ละคะ สำหรับงานด้านคอมพิวเตอร์ ภาษาก็ต้องได้เนาะ ไม่งั้นคุยกับคนสัมภาษณ์ไม่ได้ ดุจากเพื่อนร่วมงาน แขกขาว อินเดีย กลุ่มนี้ไม่ต้องมาเรียนภาษา หางานทำได้เลย แต่เขามีประสบการณ์ทำงานกับบริษัทฝรั่งจากประเทศเขาอยุ่แล้ว คือยังไงคนไทยที่ได้งานก็ต้องได้ภาษาค่ะ บางกรณีมีบริษัทแม่ที่อมริกาเคยทำที่ไทยก็ได้งานที่นี่เช่นกัน.
หลยๆ คนอยุ่ในตำแหน่งผู้จัดการเลยค่ะ (รวมถึงผู้เขียนที่เป็นหัวหน้าฝ่ายบัญชีมาก่อน) ก็มีfeedback กลับมาว่า overqualified ก็มี ทั้งที่เราก็สมัครตำแหน่งธรรมดา. จุดนี้นะคะ ถ้ามีประสบการณ์มาจากไทยให้ใช้ประสบการณ์จากไทยในการหางาน ถ้าไม่ได้ทำงานมากเป็นแม่บ้านหรือทำอย่างอื่นควรจะทำเรซุเม่ให้เห็นว่าหายไปไหน เช่น แม่บ้านสอนหนังสือลูก ไปลงเรียนภาษาอังกฤษ หรือโปรแกรมต่างๆ
เรียนเสริมหาใบประกาศระยะสั้น ๆ various certification
ที่อเมริกาจะมีโปรแกรมการเรียนแบบสั้น ๆ เยอะค่ะ อยุ่ที่เราชอบด้านไหน งานนี้อยากเป็นสาวออฟฟิต เช่น อยากเป็นสาวบัญชี สาวการเงิน ธุรการ คอมพิวเตอร์. ควรจะไปเรียนเสริมค่ะ เช่นอยากจะไปเป็นสาวธุรกิจ office assistant กลุ่มนี้โปรแกรม excel, words, power point, email ต่างๆ เหล่านี้ต้องคล่องค่ะ.
สาวบัญชีไปเรียนเสริมโปรแกรมฟรีต่างๆ เช่น online quickbooks, เรียนได้ใบประกาศ หรือไปเรียนภาษีเสริม หัดทำภาษีบุคคลธรรมดา ช่วงหน้าฤดูกาลภาษีจะได้มีคนจ้างทำงานเลย เช่นไปเรียน HR Block จบเกรดดี ๆ เขาให้ทำงานด้วยคะ ได้รับค่าแรงขั้นต่ำ แต่ถือว่าซื้อประสบการณ์ค่ะ การลงทุนที่ดีมากด้วย.
คนทำงานด้านคอมพิวเตอร์ อาจจะไปเรียนเสริมพวก SQL, VBA, Programming, coding อะไรที่คุณถนัด หรือสนใจค่ะ ถ้าจบมาด้านนี้ คนไม่จบด้านนี้แล้วอยากทำด้านนี้ จะมีโปรแกรมสั้นๆ เช่น Bootcamp ต่าง เช่น coding, cyber security หลักสุตรต่างๆ เหล่านี้มีตั้งแต่หกเดือนถึงหนึ่งปีค่ะ ไม่แพงมาก หรือที่เรียนฟรีก็มีค่ะแบบถูก ๆ ก็เยอะ เช่น Udemy และอีกหลายๆ ที่ให้เข้าไปกลุ่ม “โปรแกรมเม้อไทยในอเมริกากลุ่มใหม่ที่เพิ่งก่อตั้งขึ้นมา น่าสนใจค่ะ มีรุ่นพี่คนไทยเก่งๆ ช่วยแนะนำเยอะแยะ. ส่วนตัวเคยรู้จักพี่อีกคนแกน่าจะอายุเลขห้านะไปเรียน โค๊ดดิ้ง ตอนนี้น่าจะได้งานแล้วด้วย.
พยายามหางานแรกให้ได้ get your feet to the door
งานแรกจะยากหน่อยค่ะ ยิ่งไม่เคยเรียนจบจากที่นี่ ไม่ได้มีใบประกาศเพื่อพิสูจน์ว่าภาษาอังกฤษคุณดี จะช้าหน่อย แต่ก็มีโอกาสเป็นไปได้ค่ะ ถ้ามีการเสนองานไม่ว่าจะให้แค่ค่าแรงชั้นต่ำ แนะนำให้รับเลยค่ะ เพราะคุณต้องการประสบการณ์เพื่อที่จะได้สานงานต่อไป อาจจะทำแบบ on the job training หรือ งานแบบสัญญาจ้าง งานชั่วคราวให้ทำไปค่ะ เพราะงานนี้งานแรกจะไปเบิกฟ้าสู่งานที่สองค่ะ. เห็นหลายคนพลาดเพราะไม่รับงานเหล่านี้ ก็ไม่เคยได้งานประจำที่ดีเลย เพราะเลือกงานนี่แหละค่ะ เคยแนะนำและพยายามนะ ว่างานแรก อาจจะจ่ายน้อย หรือไม่ได้จ่าย อาจจะแค่ไม่กี่ชัวโมงแต่ให้รับ
ผู้เขียนตอนสมัครงานครั้งแรก ไมว่าจะ เทรนนิ่ง งานล่วงเวลาจัดการหมดค่ะ แต่ไม่เคยได้รับตอบรับเท่านั้นเอง ตอนนั้นอัตราคนว่างงานที่ยูท่าร์แค่ 3. To 4% เท่านั้นเองปี 2007 ก่อนเศรษฐกิจจะพัง ถึงได้งานค่ะ ส่งใบสมัครทางอีเมลล์น่าจะเป็ ร้อยละคะ มีอีเมลล์ตอบกลับไม่น่าจะถึง ยี่สิบที่ ได้สัมภาษณ์งานจริงๆ แค่สามที่ค่ะ และได้งานที่สุดท้าย สัมภาษณ์แล้วได้งานเลย หลังจากได้เวิคเพอรมิทไม่ถึงเดือน. หลายๆ ครั้ง ดวง ก็มีส่วนช่วยค่ะ เชคดวงหน่อยก็ดี ไม่ได้แนะนำให้งมงายค่ะ เรื่องพวกนี้ตามองไม่เห็นค่ะ ถ้างานนั้นมันเป็นของเรามันก็เป็นของเราละคะ ถ้าไม่ใช่คือไม่ใช่ แค่ได้สัมภาษณ์งานกือว่าประสบความสำเร็จแล้วค่ะตอนนั้นที่คิด เพิ่งมาอเมริกาได้ สี่เดือน พูดกับฝรั่งก็ฟังกันไม่ออก แม่สามีตอนนั้นยังมีชีวิต เดือนแรกฟังกันไม่รู้เรือง พักหลังถึงฟังกันออก. แต่ดีตรงที่ไปสัมภาษณ์งานกับคนที่เขาคุ้นเคยกับคนต่างชาติต่างสำเนียง เขาถึงฟังเราออกค่ะ. ไม่ต้องท้อนะคะ สำหรับใครเพิ่งมา สำหรับคนมานานแล้ว ก็ออกมาจาก comfort ผzone ก่อนจะสายค่ะ พูดแล้วคงฟังไม่ออกไม่ต้องอายเลยคะ มันเป็นเรื่องธรรมชาติที่เราๆ ล้วนแล้วต้องเจอกันหมด ยกเว้นคนตบจากอินเตอร์มานะแหละ.
ทำงานออฟฟิตมานานยัง how long have I been working in office
ที่กล้าจะแนะนำและบอกคนอื่นเพราะมองตัวเองก่อนจะได้งานแรกก็ใช่ว่าจะง่ายๆ บอกตัวเองตลอด งานอะไรก็ทำค่ะไม่เลือก ช่วงรอใบอนุญาตทำงานก็ไปเรียนได้ใบประกาศโปรแกรมควิกบุค ไปเรียนภาษา ESL อาทิตย์แรกที่มาถึง สมัครเรียนออนไลน์ประสานกับโรงเรียนก่อนมาอเมริกาค่ะ. ยังไม่มีลูกด้วยเพราะก็ไม่ได้มั่นใจว่าจะอยุ่กันนานแค่ไหน เรียนก่อนสร้างเนื้อสร้างตัวก่อน ก็ได้งานแต่ May 2009 to Present ค่ะ.
เปิดธุรกิจเล็กๆ ช่วงทำงานประจำหลังจากได้ใบอนุญาตผู้สอบบัญชีเมื่อปี 2014 ไปพร้อมกับทำงานประจำและมีลูกสาวที่แสนจะท้าทายสองคน. ดิฉันทำได้คุณก็ต้องทำได้ใช่เปล่า ทำได้ช้าได้เร็วมันก็ขึ้นอยุ่กับ กำลังสมอง กำลังเงิน กำลังใจของแต่ละคน ถ้าไม่เริ่มกันตอนนี้จะเริ่มกันตอนไหน เวลาผ่านไปไวยังกะโกหกค่ะ จากวันแรกที่มาอมริกาก็ปาเข้าไป 14 ปีเดือนธันวาคมนี้แล้วค่ะ. เห็นน้องๆ รุ่นหลังๆ เพิ่งมาไปกันได้เร็วมาก โตกันเร็ว หัวก้าวหน้า ทำงานกันเร็วสร้างตัวกันเร็วก็เกษียณกันได้เร็วนะคะ.
ที่มา : ประสบการณ์ทำงานในออฟฟิตที่อเมริกา ปี 2007-ปัจจุบัน
:
เรียบเรียงโดย : แหวนเพ็ชร วังคีรี โรลล์, ผู้สอบบัญชีรับอนุญาต (ไม่ใช่ทนาย)
วันที่ : วันจันทร์ที่ ๑๔ กันยายน พ.ศ. ๒๕๖๓, Monday, September 14th, 2020
Disclaimer:
My personal experience as an office worker may be different other Thais that work in USA. An education background and type of work may be different from others. Mine is not comparable to others. My success is measured differently from others. I consider “Success” as being happy with what I am doing, accomplish my career goals., and learning new things all the times. My family is my first priority above other things.
ประสบการณ์ในการทำงานในออฟิตของฉันอาจจะแตกต่างจากคนอื่นทีทำงานในอเมริกา. พื้นฐานการศึกษาและเนื้อหาของการทำงานที่แตกต่างกันออกไป อาจจะไม่สามารถเปรียบเทียบกับคนอื่น ๆ ได้. การวัดระดับความสำเร็จของฉัน คือการมีความสุขกับการที่ได้ทำในสิ่งที่ฉันรัก ฉันทำงานได้ตามเป้าหมายที่ตั้งไว้ และฉันได้เรียนรู้จากการงานเหล่านั้น. ครอบครัวนั้นสำคัญที่สุด.