Teaching kids how to share. สอนเด็กเรืองการแบ่งปัน

Teaching kids how to share.

สอนเด็กเรืองการแบ่งปัน

สวัสดีคะกลุ่มชอบการอ่านทั้งแบบบรรเทิงและมีสาระทั้งหลาย.  ผู้เขียนเพิ่งกลับมาจากไทยค่ะ ไปแค่สามอาทิตย์เพราะต้องกลับมาทำงาน แถมมาถึงก็มีอาการร่างกายไม่ปรับตัวอยู่หรือ ที่เรารู้กันว่า Jet lag เจ็ทแล็ก ไม่รู้สะกดถูกเปล่านะ แต่ออกเสียงแบบนี้เอาละกัน.  ก็หลับ ๆ ตื่นๆ สะสางงานที่ค้างนะคะ ทั้งงานราษฎ์และงานหลวงค่ะ  จึงอยากขอพักเรื่องการสอนเด็กในการแบ่งปันแบบได้แง่คิดต่อไปนี้ค่ะ

กลับไปเยียมครอบครัว 4 คน พ่อแม่ และ ลูกสาวสองคน ได้ขนประเป๋าใบใหญ่ๆ ไปทั้งหมด 8 กระเป๋า  กระเป๋าเสื้อผ้าที่เอาไว้ใส่กับลูกจริงๆ ก็แค่สองกระเป๋า ที่เหลือ คือเสื้อผ้าลูก ๆ ทีตั้งใจจะเอาไปให้ลูก ๆ หลาน ๆ และเด็ก ๆ แถวบ้าน พร้อมทั้งเสื้อผ้าแฟนและตัวเองที่ยังไม่ได้เก่ามาก ให้พี่น้องได้ใส่ถ้าเขาไม่สนใจก็แบ่งให้คนที่ต้องการ  เสื้อผ้าที่อเมริกา ล้วนมีคุณภาพ มียี่ห้อที่ดี และซื้อได้ถูกกว่ามีทั้งมือแรกและมือสองปะปนกันไป (นิสัยส่วนตัวจะซื้อของใหม่ก็ต้องลดสุด ๆ หรือมือสองผ้าดี ๆ หรือใครให้มาก็เอาหมด ไม่ใส่ก็เก็บไว้ให้คนอื่น ๆ ต่อ).  ไม่ใช่แค่เสื้อผ้า รองเท้าลูก ๆ ที่เขาโตแล้วใส่ไม่ได้แต่ยังมีคุณภาพดีก็ขนกลับไปด้วย พร้อมทั้งรองเท้าของตัวเอง ไม่ขนกลับมาก็แบ่งให้คนอื่น ๆ ต่อ

Croc shoes รองเท้ายี่ห้อนี้สวมใส่สบาย ๆ หน้าร้อน ขนไปหลายคู่และซื้อไว้ตอนลด และถูกกว่าที่ไทยมาก  ลูกสาวและผู้เขียนชอบรองเท้ายี่ห้อนี่ และได้ขนไป และเอาไว้ที่ไทยไม่ได้ขนกลับมา สำหรับลูกสาวคนเล็ก ชีชอบ มีเนี่ยนมาก รองเท้าก็มีเนี่ยน น่ารักสีเหลือง การตูนน่ารัก  และไม่ได้ขนมา ให้พี่สาวให้เด็กคนอื่นที่เขาไม่มี.

เนื่องจากทิ้งลูกสาวคนโตไว้ที่ไทยกับพี่สาวเพื่อจะเรียนภาษาไทยกับโรงเรียนในหมู่บ้าน น้องโตแล้วภาษาอังกฤษก็แข็งแรงแล้ว และเด็กก็อยากอยู่ในไทยสักพักเพื่อเรียนภาษา (คนโตบอกมาแบบนี้นะ ไม่รู้เบื่อไรที่โรงเรียนที่นี่เปล่า เขาเป็นคนที่อายไม่กล้าแสดงออก ผิดกับคนเล็ก ขี้อายแล้วให้คนอื่นข่มอีกและไม่สู้คน)  ไปอยู่ไทย เด็ก มีเพื่อนเยอะ และก็ญาติ ๆ กันเยอะเล่นด้วยกันเขาก็ไม่รู้สึกเหงาอะไร.

เมื่อวาน วันศุกร์ที่ 22 พฤศจิกายน 2562. พี่สาว ส่งรูปมาให้ลูกคนโตถ่ายรูปกับหลาน ญาติพี่เขยใส่รองเท้า croc กับเสื้อของคนโต เสื้อผ้าแบบนี้ถือว่าเป็นของดีของน้องคนนั้นเลย  น้องพ่อแม่หย่ากัน ไม่ได้เลี้ยงดู ต้องมาอาศัยอยู่กับย่า ซึ่งเป็นพี่สาวของพี่เขย   พอคนเล็กเห็นรูป นางโวยวายและหวงมาก และโมโหไปชั่วโมงและวิ่งหนีไปเก็บตัวที่ห้อง   สักพักออกมาแบบสงบลง  ดิฉันกับแฟนก็อธิบายให้ลูกสาวฟังว่า “ลูก คนที่ได้รองเท้าหนูไปนะ เขาไม่มีพ่อแม่นะ เขาไม่มีเงินซื้อรองเท้าแพง ๆ แบบนี้หรอกลูก  หนูมีพ่อแม่คอยซื้อให้  เดี๋ยวมะม๊าซื้อของใหม่ให้หนูเอง  เสื้อผ้าหนูเช่นกัน  เราเห็นคนอื่นใส่เราควรมีความสุขนะลูกนะ ลูกมีโฮกาสมากกว่าเด็ก ๆ เหล่านั้น”.  แล้วก็เล่าเรื่องแม่ตอนเด็ก  ซึ่งไม่มีใครให้เสื้อผ้า รองเท้าดี ๆ แบบนี้เลย ได้ชุดนักเรียนมือสองครั้งเดียวและก็ดีใจมาก แต่ก่อนแม่เรียน อาหารกลางวันไม่มี ชุดนักเรียนไม่มีแจก นอกจากสมุดและดินสอ ไม่มีคนใจดี เอาเสื้อผ้ามาแจกแบบนี้เลย ทุกปีหรือสองปี  จำได้เสื้อผ้าเก่ามือสองครั้งเดียว เท่านั้นและก็จำได้ไม่เคยลืมเลย.  คนเล็กก็ฟัง และอาการดีขึ้น และ อยากคุยกับเด็ก ที่ได้รองเท้าและชุดนั้นไป  น้องคนนั้นก็ขอบคุณและแนะนำตัวเอง  และทั้งคู่ก็ทักทายกัน   เราบอกว่า อีกสองปี หนูจะไปเรียนภาษาไทย หนูจะได้เป็นเพื่อนกันไง เขาอายุมากกว่าแต่เขาตัวเล็กกว่า เพราะป๊ะป๋านะไม่ใช่อเมริกัน ป๋าหนูนะอเมริกันนะ อย่าไปว่าเขาตัวเล็ก (ต้องสอนด้วยทำไมเขาสูงกว่าคนอื่นๆ )

สำหรับผุ้เขียนเอง ได้ให้เสื้อผ้าของตัวเองแก่ญาติพี่น้อง มาตลอดตั้งแต่ทำงานมีเงินเดือนและไม่ได้หวง พี่สาวน้องสาว หรือสมัยก่อนหลานชายก็มาหยิบเสื้อผ้าไปใส่ได้สบาย ไม่ได้ว่ากัน แต่บางทีเพิ่งใส่ครั้งแรกต้องบอกขอก่อน กรูเพิ่งซื้อมาคราวหน้ามรึงค่อยเอานะ หลานผู้ชายมันก็เข้าใจ (ก่อนหน้าวัยร่นจะแต่งตัวแบบชาย  ไรตลอด )  พออายุมากขึ้นสไตล์ก็เปลี่ยนไปตามความชอบส่วนตัวและไม่เลียนแบบใคร

สรุป ของที่เรายังต้องการหรือไม่ต้องการ ยังเป็นที่ต้องการของคนอื่นอยู่มากมาย โดยเฉพาะของจากอเมริกาที่มียี่ห้อและคุณภาพดีกว่าที่บ้านเรามาก  เพราะของที่นำเข้าส่วนใหญ่ต้องคุณภาพดีจริงๆ .  ตัวอย่างปีก่อน เอาเสื้อผ้าลูก ๆ ให้ญาติกัน เขาบอกว่า ไปดูในห้างแพงมากแต่ละยี่ห้อ ไม่มีปัญญาซื้อให้ลูกตัวเองหรอก สรุปแลวลูกสาวของเขาใช้เสื้อผ้าลูกเรามาตลอด เพราะเด็กหญิงเหมือนกันและ เกิดตามหลังลูกเราสองสามปี.  ได้ยินแบบนี้ก็ปลื้มค่ะ ไม่เสียดายและรู้สึกดี ที่สิ่งเล็ก ๆ น้อยเราก็สามารถแบ่งปันได้ค่ะ 

ปลื้มมากที่ลูกสาวทั้งสองเข้าใจถึงการแบ่งปันมากขึ้น

จาก แม่ลูกสองที่รักการแบ่งปัน