Work in U.S.A. and Taxes ทำงานในอเมริกา และ ภาษี
มีผู้คนมากมายที่อยากทำงานในอเมริกา โดยเฉพาะกลุ่มที่อยู่นอกอเมริกา เพราะค่าแรงถ้าคำนวณเป็นรายวันแล้วเป็นรายเดือนถือว่าเยอะมาก ถ้าเปรียบเทียบกับค่าแรงขั้นต่ำของไทยซึ่งวันละ 300 บาท. ที่อเมริกาจ่ายค่าแรงขั้นต่ำเป็นรายชั่วโมง ที่ $7.25 นี่เป็นอัตราค่าแรงขั้นต่ำที่ระบุโดยรัฐบาลกลางของอเมริกา. และกฏหมายของแต่ละรัฐทั้ง 50 รัฐก็จะแตกต่างกันออกไป คือจ่ายมากกว่าที่รัฐบาลกลางได้ แต่ห้ามต่ำกว่าคะ.
ถ้าเรามองกันเป็นค่าเงินบาท โดยคิดอัตราแลกเปลี่ยนที่ 34 Baht : $1. สมมติว่า เราทำงาน อาทิตย์ละ ๕ วัน วันละ ๘ ชม. เราทำงานเดือนละ 160 ชม.ในหนึ่งเดือน ยอดรายได้เป็นเงินบาทจะอยู่ที่ 39,440 หรือ $1,160 ต่อเดือน คำนวณได้จาก ( $7.25/hour x 8 hours/day x 20 days x 34) หาอัตรส่วนค่าแรงขั้นต่ำ ในเวลา ยี่สิบวันของหนึ่งเดือนที่เราทำงานอยู่ที่ 6,000 : 39,440. Or 15.21%: 100%
ที่กล่าวมาคือค่าแรงงานขั้นต่ำ ของงานทั่วไปที่ไม่จำเป็นต้องมีปริญญา เรียนมหาวิทยาลัยอะไรเลยนะคะ. ทำงานโรงงานยังได้เยอะกว่านี้อีกคะ.
US Taxes ภาษีที่ต้องชำระในอเมริกา
หลังจากทำให้หลาย ๆ คน วาดภาพกันสวยหรู ถึงค่าแรงขั้นต่ำของอเมริกาแล้ว. ด้วยความเป็นห่วงจึงต้องดึงท่าน ๆ ออกจากพะวังนั้นด้วยการพูดถึง ภาษีที่ต้องชำระ ตามกฏหมายภาษีอากรที่นี่.
กฏหมายอเมริกาบังคับให้นายจ้าง ที่จ้างงาน มีหน้าที่หักภาษี Social security (เงินประกันสังคม) & Medicare (เงินค่าประกันรักษาพยาบาลยามแก่เฒ่า), Federal Income Tax (ภาษีที่ต้องจ่ายให้กับรัฐบาลกลาง), State Income Taxes (ภาษีรัฐที่เราอยู่อาศัย) and maybe local taxes (บางเมืองเรียกเก็บภาษีเมืองที่เราอยู่). หลังจากหักไว้และต้องนำส่งไปหน่วยงานที่เกี่ยวข้องตามกฏหมายนะคะ. ภาษีที่หักไว้ ถือว่าเป็นหนี้ของกิจการหรือนายจ้าง ที่ต้องชำระให้กับหน่วยงานราชการที่เกี่ยวข้องคะ.
7.65% ถูกหักจากเงินเดือน (Social security (เงินประกันสังคม) & Medicare (เงินค่าประกันรักษาพยาบาลยามแก่เฒ่า))
จากรายได้ที่คำนวณเป็นเงินไทยข้างต้น เฉพาะ ภาษีตัวนี้ก็ปาเข้าไป ที่ 3,017 บาทแล้วนะคะ (39,440 x 7.65%)
10% – 39.60% สำหรับภาษีที่จะถูกหักนำส่งให้รัฐบาลกลาง (Federal Income Tax (ภาษีที่ต้องจ่ายให้กับรัฐบาลกลาง) )
สมมตินะคะ คุณขยันมาก รับจ้างเป็นคนทำอาหารมาจากเมืองไทย ได้รับค่าแรงขั้นต่ำ มีลูกสอง เมีย หนึ่งคน ย้ายมาทั้งครอบครัวที่อเมริกา ถ้ารับแค่ค่าแรงขั้นต่ำ คุณขยันมาก จะไม่มีภาษีที่ต้องหักคะ เพราะ รัฐบาลให้สิทธืค่าลดหย่อนคู่สมรสถึง $12,700 ซึ่งเกือบมากกว่า ค่าแรงทั้งปีของคุณขยันมากเลย.
แต่ถ้าเมียคุณขยันมากทำงานด้วยค่าแรงเท่ากัน ภาระภาษีของทั้งคู่จะประมาณที่ ศุนย์คะ เพราะลุกสองได้สิทธืหักลดหย่อนคนละ4,050 x สี่คน ในครอบครัวก็ปาเข้าไป $16,200 นะคะ.
แต่ถ้าคุณขยันมาก มาคนเดียว เมียไม่มาลุกไม่มา คุณขยันมาก ก็มีภาระภาษีที่นิดหน่อยต่ำสุด 10% ก็ประมาณ $353 คำนวนจาก ค่าแรงทั้งปี ($13920 – $6350 ค่าลดหย่อนส่วนตัว – $4050 ค่าลดหย่อนส่วนบุคคล เหลือ $3520 x 10%)
อธิบายให้เคลียร์ชัดเจนขนาดนี้หวังว่า หลาย ๆ ท่านที่เพิ่งมาอเมริกา หรืออยู่อเมริกามานาน แต่ไม่เคยรับรู้เรื่องภาษีอากรเลยเพราะรับเงินใต้โต๊ะมาตลอด ได้โปรดเข้าใจนิดนึ๊ง เผื่อเปลี่ยนใจอยากเข้าระบบเสียภาษีเหมือนบุคคลากรของที่นี่โดยทั่วไป.
Paying under the table รับเงินใต้โต๊ะ
1.) Work without working authorization ทำงานโดยที่ไม่มีใบอนุญาตทำงาน
คือที่พูดมานี่ไม่ใช่แค่คนไทยนะคะ น่าจะทุกชาติที่ไม่อยากเสียภาษี มาอาศัยอยู่อเมรกาด้วยวีซ่าต่าง ๆ แต่มีเหตุผลที่ไม่สามารถทำงานตามกฏหมายได้ ทำให้ต้องรับเงินใต้โต๊ะ.
การรับเงินใต้โต๊ะ ทางหน่วยงานราชการจะไม่มีข้อมูล เพราะนายจ้างไม่สามารถทำเรื่องนำส่งไปได้ไม่สามารถ นำเข้าระบบค่าแรงปกติได้เหมือนคนมีใบอนุญาตทำงาน.
เนื่องจากกฏหมายแรงงานครุ้มครองทุกคนที่ทำงานในอเมริกา และไม่คำนึงถึงสถานะ มีผลให้เกิดการฟ้องร้องการนัวเนีย เรื่องการจ่ายค่าแรงต่ำกว่าค่าแรงขั้นต่ำ. นอกจากนายจ้างจะเสียเปรียบ ที่ไม่สามารถใช้เป็นค่าใช้จ่ายทางภาษีอากรแล้ว ยังต้องมารับภาระ และแก้ปัญหาต่างๆ เหล่าหนี้ ด้วย. ฉะนั้น นายจ้างคิดดี ๆ นะคะ ก่อนจะจ้างใคร.
มีบางกลุ่มที่มาด้วยวีซ่าประเภทอื่นๆ เช่น ท่องเที่ยว นักเรียน หรือมาแบบถูกต้องแต่ไม่ได้ต่อกรีนการ์ด ทำให้ไม่มีสถานะทางกฏหมายใด ๆ ถูกนายจ้างบางกลุ่มเอาเปรียบ จ่ายค่าแรงต่ำกว่ามาตราฐาน ใช้งานเยี่ยง….. แถมยึดพาสปอร์ตเขาอีกกลัวเขาหนี แถมอีก ให้เขาทำงานไม่มีวันหยุด แถมอีก ให้ที่อยู่เขาพักยังกะรูหนู แถมทำร้ายเขาอีก แถม สารพัดที่นำมาซึ่งการทำบาป.
*ใครจะมาทำงานที่อเมริกา ให้ระวังด้วยนะคะ ว่าเรามานั้น มีใบอนุญาตทำงานถูกต้องไม๊ เขาให้เราทำไร เรารู้จักหน่วยงาน หรือใครบ้าง ถ้าเกิดเหตุการณ์ ถูกเอาเปรียบแบบนี้ เราจะทำไง.
2.) Work with working authorization, but want CASH
มีใบอนุญาตทำงานถูกต้องแต่อยากรับเงินสด
เยอะมากเลยนะคะกลุ่มนี้ มีทุกชาติ และศาสนาคะ คนขาว คนผิวแทน คนผิวเหลือง คนผิว ชมพู คนผิวคล้ำ ที่อาศัยในอเมริกา (ไม่ค่อยเห็นพวกแขกดอย เพราะพวกนี้เข้ามาคือ จากวีซ่าทำงานแล้วมีรายได้สูง) จากที่รู้ ๆ ฟัง ๆ คือ ส่วนใหญ่รับสวัสดิการจากรัฐ เนื่องจากแสดงรายได้ต่ำ ขอพวก ประกันสุขภาพ ขอค่าบ้านพัก ขอค่าอาหาร เยอะแยะมากมาย กลุ่มนี้จะเข้าถึงสวัสดิการทุกอย่างที่มีในรัฐนั้น.
ค่าแรงรายวันก็ใช่ว่าจะต่ำ ๆ นะคะ บางคนวันละ $150 working 10 hours ตกชั่วโมงละ $13.67 นะคะ เพราะ 2 ชม. ถือว่าเป็นค่าล่วงเวลาเขาละคะ 1.5 เท่าของค่าแรง ต่อ ชม.
กลุ่มนี้ส่วนใหญ่จะทำงานกับกิจการขนาดเล็ก และใช้ระบบครอบครัว (บางกิจการเล็กแต่ใช้ระบบอินเตอร์คะ) ฉะนั้นจะไม่เหมารวมทุกกรณี. และส่วนใหญ่นะคะ กิจการขนาดกลาง ใหญ่ ไม่มีจ่ายคนเงินสดคะ เข้าระบบหมด จะจ่ายเป็นเชคหรือสด ก็ต้องมีการหักภาษีไว้ตามกฏหมาย. ที่สำคัญ เขาไม่จ่ายค่าแรงกันเป็นเงินสดคะ เพราะ ระบบควบคุมภายในจะไม่เอื้ออำนวย ทำให้ฉ้อโกง ได้เกือบทุกกรณี.
นายจ้างที่ไม่อยากจ่ายค่าแรงในระบบเพราะไม่อยากจ่าย ตัวนี้เลยคะ
7.65% ถูกหักจากเงินเดือน (Social security (เงินประกันสังคม) & Medicare (เงินค่าประกันรักษาพยาบาลยามแก่เฒ่า)) นายจ้างต้องสมทบครึ่งหนึ่งคะ และต้องจ้างคนทำค่าแรง นำส่งรายงานต่าง ๆ สารพัดคะ.
ตามประสบการณ์ที่ทำบัญชีให้กับกิจการขนาดเล็กนะคะ คิดว่าไม่ได้ประหยัดคะ เจ้าของเข้าเนื้อจ่ายภาษีเองหมด เพราะตัวแหวนเองทำงานบัญชีตามกฏหมายภาษีอากรคะ และจะไม่เสี่ยงลงบัญชีให้กณีแบบนี้ และจะไม่ใช้ชื่อตัวเอง เกี่ยวข้องกับกิจการแบบนี้. นอกจาก จะถือว่า เอาเปรียบคนอื่นแล้ว ยังเอาเปรียบสถานที่ที่ให้เรามีอาชีพนะคะ. มีเยอะนะคะ คนรับทำบัญชี ทุกซอกทุกมุมเลยคะ ไม่แพง และไม่สนใจ เจ้าของกิจการจะทำไรด้วย นั่งเขียนได้สบาย รวดเร็ว แถมค่าบริการถูกมั๊กนะคะ.
ตอนนี้ก็ได้แต่คอยเตือนคนที่รู้จัก ให้ระวังในจุดนี้ เพราะมีแต่เสียกับเสียคะ ไม่คุ้มด้วยกับสิ่งที่จะเสีย นอกจากจะเสียชื่อ ยังต้องเสียเงินด้วยนะคะ. อเมริกานะคะ ไม่ใช่เมืองที่เราจากมา เขาไม่มีเจ้าหน้าที่เยอะ แต่ถ้าเขาตรวจเจอ หรือมีคนแจ้ง งานเข้าแน่นอนคะ.
3.) Legally to work, but don’t want to work because of high Taxes มีใบอนุญาตทำงานแบบถูกต้อง แต่ไม่อยากทำงาน เพราะต้องเสียภาษีเยอะ
กลุ่มที่ไม่มีใบอนุญาตทำงาน ฟังแล้วอาจจะคิดไปกันใหญ่ ว่าคนทำไมเขาไม่อยากทำงานกัน. ก็เขากลัวต้องเสียภาษีเพิ่มกันไงค่ะ เนื่องจากภาษีที่อเมริกามันสูงค่ะ. จากที่ฟัง ๆ รู้ ๆ มา มีทั้ง คน ขาว คน ดำ คนผิวเหลือง คนผิวแทน คนผิวกละ คนผิวแห้ง สารพัดคะ ไม่อยากทำงานเพราะภาษีมันเยอะ.
บางกลุ่มโดยเฉพาะ กลุ่มเมียฝรั่ง เช่นหลาย ๆ คน มีสามีรวยคะ สามีไม่อยากให้ทำงาน พอกินเลี้ยงแบบสบายเป็นคุณนายเลยก็เยอะคะ. ทำไปบางคนฐานภาษีเขาสูงสุดที่ 39% ยอดที่เพิ่มมาก็เสียภาษีไปขนาดนั้นเลยคะ อันนี้คือกลุ่มรวยแท้คะ.
มาอีกลุ่มที่รวยไม่มากนะคะ ซึ่งมีหลายระดับ ขึ้นอยู่แต่ละคนจะให้คำจำกัดความ. ขอแสดงความเห็นนะคะ ในฐานะที่ตัวเองทำงานประจำและมีรายได้ระดับปานกลาง ที่รับเงินเดือน เสียภาษี เต็มที่จากเงินเดือนค่าจ้างที่ตัวเองได้รับ (แอบยาว). ถ้าคู่สมรสแต่งงานกัน มีลูกสองคน รายได้ปีไม่เกิน $110,000 ที่เครดิตที่จะได้รับจากการมีลูก $1,000 จะถูกตัดนี่ ก็สมควรที่เมียจะต้องไม่ทำงานก็ได้นะคะ เงินเดือน แสนหน่อย ๆ ต่อปี พอเลี้ยงครอบครัวได้คะ ถ้าหนี้ไม่เยอะ ไม่ใช้จ่ายฟุ่มเฟือย.
แต่อีกกลุ่มที่รายได้ปีต่ำกว่า $60,000 แล้วสามีภรรยาบอกว่าไม่ต้องทำงานเพราะกลัวเสียภาษี นี่ควรจะกลับไปคิดใหม่นะคะ เพราะ รายได้ปีละ $60,000 ฐานภาษีของคู่สมรส ไม่มีลูกอยู่ที่ 10-15% เองค่ะ มันอยู่ได้สูงถึง $75,000 ค่ะ หมายถึงว่า ถ้าสามีภรรยาทำงานปีรวมกันไม่เกิน $95,800/year เสียภาษีอยู่ที่ไม่เกิน 15% หลังหักค่าลดหย่อนนะคะ ไม่ได้สูงเลย เทียบเท่ากับ capital gain taxes แต่จะเสียภาษีของรัฐเพิ่ม.
**กลุ่มที่มีโอกาสทำงานแบบถูกต้องแล้วไม่อยากทำเพราะกลัวเสียภาษี. ในขณะที่กลุ่มที่พยายามเข้ามาทำงานในอเมริกา ยอมโดวีซ่า เสียสถานะภาพทางกฎหมาย เพื่อที่จะได้ทำงานที่นี่ รับเงินสด ไม่ได้เสียภาษี เพราะไม่มีใบอนุญาตทำงาน**
กลุ่มที่รับเงินพวก Disability ก็ต้องพิจารณานะคะ ระหว่างให้สามีหรือภรรยากลับไปทำงาน แล้วต้องเสียภาษีเงินได้จากเงินสวัสดิการตัวนี้ ก็ให้คิดให้รอบคอบคะ. (ไม่ว่ากลุ่มนี้คะ เห็นใจมากกว่า เพราะ ถ้าเจ็บป่วยพิการทำงานไม่ได้ คือคงจะไม่มีใครอยากอยู่ในสถานการณ์แบบนี้..แอบลำเอียง นิดหนึ่ง…
We work to live เราทำงานเพื่อเราจะได้ใช้ชีวิตแบบสะดวกสบาย
ไม่รวมกลุ่มที่รวยมาก เนื่องจาก พ่อแม่ รวย สมบัติเยอะ สามีรวย รักและหลงนะคะ. ยกเว้นกลุ่มนั้น ๆ. เนื่องจากเราๆ ท่าน ๆ ก็ต้องทำมาหารับประทาน เพื่อยังชีพ เพื่อที่จะดูแลครอบครัว ลูก ๆ พ่อแม่ พี่น้องของเรา. เราทำงานมีเงินมีอาชีพ ครอบครัวเราก็ได้ลืมตาอ้าปากด้วยใช่ปะคะ โดยเฉพาะกลุ่มที่ต้องดูแลครอบครัวที่ไทย ตามความเชื่อว่าเราต้องกตัญญูต่อผู้มีอุปการะคุณ.
มีงาน มีเงิน เราจะทำไรก็ได้ใช่ปะคะ เราอยากมีบ้าน เราก็ซื้อได้ เราอยากมีรถ เราก็ซื้อได้ เราอยากเที่ยวเราก็เที่ยวได้ สารพัดที่เงินจะซื้อหามาได้คะ (ยกเว้นความเป็นเพื่อน และมิตราภาพ).
การทำอาชีพที่สุจริต มีหลายแบบคะ ทั้งค้าขาย ออนไลน์ ทั้ง เปิดกิจการเล็ก ๆ ของตัวเอง ทั้งงานร้านอาหาร ทั้งงาน โรงงาน งานบริษัท สารพัดเลยคะที่อเมริกา. ถ้าเราอยากทำงานบริษัทเงินเดือนดีหน่อย มีสวัสดิการที่ดี เราก็ต้องไปเรียนต่อคะ รับประกันว่าคุ้มนะคะ กับการลงทุนเพื่อการศึกษา (เหนื่อยแต่คุ้มค่าคะ นอกจากความรู้ที่เราจะได้รับ ได้สังคม เรียนรู้วิถีคิดของคนหลายๆ แบบ ทำให้เราใจกว้าง มองโลกกว้างมากขึ้นคะ).
♥Always look for opportunities, and don’t wait opportunities to find you. คอยมองหาโอกาสสม่ำเสมอ ไม่ใช่รอให้โชควาสนานำมาให้เรา♥
เรียบเรียงโดย : แหวนเพ็ชร วังคีรี โรลล์ (ผู้สอบบัญชีรับอนุญาต)
ที่มา : ประสบการณ์ตรงจากการทำบัญชีและภาษี
วันที่ : วันจันทร์ที่ 17th กรกฎาคม 2560, , Monday, July 17th 2016