How to prepare for job interview – เตรียมตัวการสัมภาษณ์งาน

 

มีผู้อ่าน ฟอรัม ได้สอบถามมาให้ช่วยแชร์ประสบการณ์ การสัมภาษณ์งาน ในอเมริกาหน่อย เพราะผ่านงานมาก็หลายที่ อยู่ อเมริกามา 11 ปีกว่า ๆ มีมาแล้ว 6 ตำแหน่ง ก็เปลี่ยนงานบ่อยพอสมควร.  การเปลี่ยนงานบ่อยมันก็มีทั้งข้อดีและข้อเสียค่ะ  ถ้าพูดถึงข้อเสียนายจ้างโดยทั่วไปจะไม่ชอบคนเปลี่ยนงานใหม่ แต่ไม่ใช่ทั้งหมดหรอกค่ะ.   ข้อดี คือ ได้เรียนรู้อะไรใหม่ ๆ ได้เงินเดือนเพิ่มขึ้น ไม่มากก็น้อย แม้ว่าบางครั้ง เงินเดือนอาจจะไม่มากขึ้น แต่เราได้เปลี่ยนบรรยาศ หนี จากอะไรที่ซ้ำซาก  หนีเสือปะจระเข้เป็นเรื่องปกติของการทำงานค่ะ  ไม่มีที่ไหน ที่เราไม่ต้องเผชิญกับ เสือ สิง กระทิง แRด นะค่ะ.   เป็นประสบการณ์ส่วนตัวล้วน ๆ ค่ะ อาจจะไม่ค่อยเหมือนใครเท่าไรค่ะ เพราะเป็นคนแปลกมานานแล้ว.

 

Learn about organization

 

พวกนี้เราสามารถหาได้จากเวบไซด์ค่ะ เขาทำธุรกิจอะไร บ้าง มีสำนักงานสาขาเท่าไร มีชื่อในตลาดหลักทรัพย์ไม๊  หรือบริษัทเล็ก ๆ เพิ่งเปิด  ไปดูที่ ลิงค์อิน ดูจาก เวบไซด์ต่างๆ ค่ะ  ใครเป็นผู้บริหารในองค์กร มีพนักงานกี่คน ถ้ารุ้ได้ก็ดี.

 

ผลิตภัณฑ์เขา เขาทำอะไร เป็นอะไรที่เราสนใจไม๊  คนอยู่นี่นานไม๊  อะไรต่างๆ  พวกนี้ เราต้องรู้ค่ะ  เขาถามอยู่แล้ว why do you think you like to come to work with us.,

 

ก่อนอื่นเรามาเรียนรู้จุดอ่อนจุดแข็ง จุดขายของเราก่อนค่ะ ว่าเรามีอะไร งานที่เราจะได้รับสัมภาษณ์ที่อาจจะเหนือ กว่าคนอื่น หรือ ด้อยกว่าคนอื่น  ดูจากตำแหน่ง หน้าที่ และ คุณสมบัติในงานนนั้นได้เลยค่ะ. 

ประวัติการทำงานที่เราส่งไปนั้น สอดคล้องกับ คุณสมบัติแค่ไหน  ถ้ามากกว่าครึ่ง หรือน้อยกว่า เตรียมตัวไว้เขาจะถามหาจุดที่เราไม่มีอย่างชัดเจนค่ะ.

 

เช่นนะคะ เราเองเปลี่ยนงานบ่อย เขาจะถามเลยค่ะ     Based on your resume, you have moved quite a few places in last couple years., why? บางคนอาจจะไม่ถามตรงๆ  บางคนนี่ตรงประเด็นเลยค่ะ. 

 

เราตอบไงใช่ปะคะ.  I am a person that like to learn new things and challenging projects., I would like to improve my skills set., so that I can understand a bigger picture of what I am doing., once I have learn that it helps me a great deal., To be honest, I do not want to find a new job all the time., we all want a stable place, great team to work with. Sometime, things change., we have to move one and start over. I have learned that your company has more people stick with organization for over 15 years. That is good to know and I am hoping to fit in the culture.

 

Your strength รู้จุดแข็งของตัวเอง

 

จุดแข็ง ถ้ามีขายเยอะ ๆ ค่ะ เช่น มีประสบการณ์ตรงมาจากเมืองไทย ได้เป็นถึงระดับหัวหน้า ว่าเราทำโปรเจคอะไร เป็นที่โดดเด่น เราทำอะไรช่วยเหลือสังคม นอกจากงานประจำ เราถนัดโปรแกรมคอมพิวเตอร์อะไรต่าง ๆ

 

เขียนในเรซูเม่ถึงประสบการณ์เราให้ชัดเจน เพราะคนถามจะถามเราในจุดที่เราเขียน แล้วเราเตรียมตัวขยายความไปค่ะ.

 

ยกตัวอย่างเรานะคะ  เคยทำงาน แบบด้านบัญชี เคยวางระบบ  ต่าง ๆ จากไทย  เคยแก้ผังบัญชี  วางระบบต้นทุน สารพัด  แม้ว่ามันอาจจะไม่ค่อยเกี่ยว เราก็โม้จาก งานที่เขาต้องการคุณสมบัติ นะเลยค่ะ   มีงานล่าสุดนะคะที่เราสมัคร ระบุต้องการนักวิเคราะห์  เราทำบัญชีมาตลอดค่ะ ไม่ค่อยได้ทำวิเคราะห์เท่าไร เราก็ระบุเลยค่ะ สิ่งที่เราทำมา นั้น ทำให้เราเข้าใจ ว่า มันเริ่มต้นอย่างไร มันช่วยในการวิเคราะห์ได้มากแค่ไหน เพราะเรารู้ถึงจุดเริ่มต้น.  

 

ตอบงี้ค่ะ  I have been working on preparing financial statements all aspect of outcome., I spend time to learn and understand it. There are many time., I do not know what to do  and how to solve some issues., however, I just come back and think about logic behind and written down steps., it does work., I can solve all issues., my answers will be the same as others. I have learned that it does not matter how you get to come up with answers as long as your answers have all the backup you needed.

 

The job requirements stated, having strong finance background is a plus., which I do have and plus I have done different types of analysis for the managements in different industries., I always get their feedback ask for their expectation., most of the time., they are happy. Many times, when someone ask for something., they don’t’ even know what they are talking about. Communicating is the keys to reach the goal., I am certain that I can do a great jobs, and work well with the team.

 

การตอบปัญหา ไม่ต้องท่องคะ ให้ไปตามน้ำเลย  อะไรอยู่ตรงหน้าเกี่ยวข้องกับงาน จัดไปค่ะ  ได้ไม่ได้งานช่างมัน ที่แน่ๆ ได้พูด ได้โม้ถึงความสามารถเรา. ไม่ต้องอายคะ เขามักัดเราหรอกค่ะ (แค่ไม่จ้างเท่านั้นเอง 5555).

 

Your weakness รู้จุดอ่อนของตัวเอง

 

เราต้องมองตัวเองให้ออกค่ะ ว่าเราบกพร่องและไม่เก่งจุดไหน  คนไทยอย่างเราก็คือภาษาอังกฤษที่มีสำเนียงไทยแบบชัดเจน  แล้วเรามองว่าเป็นจุดอ่อน  อันนี้เราก็บอกเขาไปค่ะ ว่าบางครั้งเราก็ขาดความมั่นใจบ้าง ช่วงแรก ๆ หลังอยู่อเมริกามาได้ปี เราก็มั่นใจเต็มที่ เพราะ สัมผัสว่า อเมริกามีคนหลากหลายเชื้อชาติ พูดสำเนียงแปลก ๆ แม้แต่คนที่เกิดที่นี่เอง  บางทีก็ฟังไม่รู้เรื่อง และเราก็บอกไปอีกว่า เราก็เรียนเพิ่มเติมตลอดเวลา  ณ ปัจจุบัน เราก็ได้เรียนรู้สิ่งใหม่ ๆ อยูเรื่อย ๆ ตราบใดที่เราไม่หยุดพัฒนา และมีความเชื่อมั่น เราทำได้

 

บางคนอาจจะไม่ได้ทำงาน ออฟฟิตมานาน มาอเมริกาก็มีลูกเลย ไม่ได้ออกสังคม

 

ให้แก้จุดนี้โดยการระบุว่าเราเรียนอะไรออนไลน์ และมีใบประกาศแสดงคะ เช่น เราได้ ใบประกาศว่า เราสอบผ่าน ESL, QuicksBook., Computer ตัวนี้มันทำให้เราใช้จุดอ่อนของเราเสริมจุดแข็งได้  เขาจะมองว่าเราเป็นคนไม่อยุ่นิ่งและพัฒนาตนเอง  ที่สำคัญทำให้เขามองว่าภาษาเราดีขึ้นด้วย

 

ตอบงี้ค่ะ  I am from Thailand and have lived here only a couple years., In order to go to workforce and keep myself update., I have been taking English as a Second Language class (ESL)., Computer classs., and plus Quicksbook class (จะดีมากถ้าเราสมัครงานพวกบัญชี พวกออฟฟิต ใช้ไม่ได้ใช้ก็อีกประเด็น)  คือคนเราที่จะเรียนพวกนี้ได้ ภาษาต้องโอเคใช่ปะคะ  I also take an adult school class with High School kids., I really focus on writing / academic writing so that I can write a report, and answer emails.

 

ถ้าใครไปเรียนต่อจนได้ปริญญาไม่ต้องพูดก็ได้ ค่ะ เราได้พิสูจน์แล้วว่าภาษาเราใช้ได้.

 

Ask questions to interviewers เตรียมคำถามสำหรับถามผู้สัมภาษณ์

 

 

ทุกครั้งหลังจากเขาบอก อะไรเกี่ยวกับบริษัทหรือองค์กรนั้น ๆ แล้ว เขาจะถามเกี่ยวกับประวัติเรา เราตอบ  แล้วต่อมาเขาจะให้เราถามคำถามเพิ่มเติมว่า เราอยากรู้อะไรเพิ่มบ้าง  ส่วนตัวแล้ว เวลาถูกถามคำถาม จะถามผู้สัมภาษณ์กลับตลอดเวลา และจะไม่ค่อยมีคำถามมาก.

 

ในการถามคำถามกลับไปยังคนสัมภาษณ์นั้น เป็นการบ่งชี้ว่าเรามีความสนใจที่จะรู้จักองค์กรนั้นมากขึ้น และอยากทำงานกระตือรือร้นมากขึ้น เขาจะมองว่าเราเป็นคนที่สามารถทำไรได้มากกว่าที่เขาคิดหวัง ทำให้เราเป็นคนที่น่าสนใจมากขึ้น ถ้าเขามองหาคนที่คล่องแคล่ว กระตือรือร้นก็เราเลยประมาณนั้น. แต่ถ้าเราเป็นตัวของตัวเราเองถามคำถาม รู้ในสิ่งที่เราอยากรู้  เราอาจจะไม่อยากทำงานกับเขาก็ได้ค่ะ เป็นไปได้ทั้งสองอย่าง.  ทำให้เหมือนเราอยากทำงานกับเขาคะ เราจะได้มีตัวเลือกเยอะ ๆ ค่ะ.

 

คำถามที่ควรถามมีดังนี้ค่ะ

 

ถ้ามีก็จะถามว่า คุณมีความคาดหวังอะไรจากผู้ที่คุณจะจ้าง what are your expectation from candidates ?

คุณมองหาคนที่มีคุณสมบัติแบบไหน ที่ไม่ระบุไว้ในประกาศ What qualification that you not listed on requirements.?

 

คุณคาดหวังว่า ผู้สมัครงานถ้ารับเข้าทำงานแล้ว เขาจะทำอะไรบ้าง ใน 6 เดือนแรก ถึง 5 ปีแรก  (เปลี่ยนคำถามได้) What do you expect from candidate to accomplish in the first 6 months/ 5 years?

 

บริษัทมีแนวทางนโยบายการพัฒนาอะไรบ้าง (ถามนี้เพื่อจะรุ้ว่ากิจการมีแผนจะขยายไม๊) What are company development plants/growth?

 

พอเขาตอบคำถามไรหมดแล้ว เราก็ถามว่า เราจะได้รับคำตอบเมื่อไหร่ จะได้ตาม When will I hear from you, please let me know so that I can follow up?

 

เสร็จแล้ว ได้คำตอบ ก็ขอบคุณเขาสำหรับโอกาสที่ได้มาสัมภาษณ์ ได้มาเรียนรู้เกี่ยวกับธุรกิจ.

 

 

Conclusion ผลสรุปสั้น ๆ

 

คำถามในการตอบการสัมภาษณ์นั้น มีเยอะแยะมากใน อินเตอร์เน็ท ไม่ต้องท่องค่ะ หาคำที่ดี ๆ ไว้สำหรับตอบในกรณีของเรา ตำแหน่งที่เราสมัคร เอาที่มันใกล้ ๆ เคียง ศัพท์งาม ๆ หรือ ชาวบ้านก็อยู่ที่คนสัมภาษณ์เราด้วยค่ะ  บางคนสัมภาษณ์คนเดียว บางทีสัมภาษณ์ 5-11 คน จัดไปค่ะ รุมเราคนเดียว เราก็ต้องยิ้มสู้ค่ะ  มาหลายคนเขาต้องการรู้ว่า เราทำงานเข้ากับคนอื่นได้เปล่า ดูจากบุคลิกภาพเรา  บางคนดูไม่เก่งแต่เข้ากับคนง่าย ยิ้มแย้มแจ่มใส เขาจะชอบค่ะ  บางคนดูเครียดตลอดเวลา เขาก็ไม่ชอบเราค่ะ  บางคนก็ชอบแบบครียดๆ เท่านั้น.  จะได้งานหรือไม่ ก็ดวงมากกว่าครึ่งด้วยค่ะ ไม่ใช่แค่ความสามารถ.

 

สำหรับคนที่ไม่เคยผ่านการสัมภาษณ์เลย เพราะไม่เคยสมัครงานก็ลองดูค่ะ มันสนุกดี จะได้ฝึกความมั่นใจเราด้วย ดูว่า ตลาดมีความต้องการเราแค่ไหน.  เมียฝรั่งบางกลุมมีความรู้ค่ะ แต่ขาดคามกล้า มีแต่ความไม่มั่นใจในตัวเอง  เพราะไปไหน ผัวหาให้ ขับรถให้ พาไปซื้อกับข้าว พอไปซื้ของ ไม่เคยทำไรเองเลย  อันนี้เห็นเยอะมากค่ะ  ผัวรักผัวหลงก็ดีค่ะ ถ้าผัวรวยเราก็หายห่วง และมีพินัยกรรมยกสมบัติให้เราหมดไว้ด้วย กอดนอน สบาย ๆเวลาผัวจากไป.  โลกนี้มันไม่ได้สวยงามแบบนั้นค่ะ  เราต้อง เตรียมตัวไว้ในอนาคต  อนาคตเป็นสิ่งที่ไม่แน่นอน  มีอาชีพ มีหน้าที่การงาน เลี้ยงตัวเองได้ เลี้ยงครอบครัวได้.

 

เรามาครั้งแรก เรายินดีฝึกงานกับใครก็ได้ค่ะ วารันเทียไปทั่ว อยากเข้าสังคม ลูกก็ยังไม่ปล่อยให้มีค่ะ ไม่รู้จะอยู่กับผัวได้นานแค่ไหน อยากมีไรมั่นคงก่อน หางานทำ เรียนภาษา ฝึกความมั่นใจของตัวเอง  ไม่จำเป็นต้องเรียนสูงมาจากไหนหรอกค่ะ ทุกอย่างมันเริ่มต้นกันได้หมด  คนไม่มีความรู้ประสบความสำเร็จ ไปเรียนต่อ เป็นเจ้าของกิจการก็เยอะ ในทางกลับกัน เมียฝรั่งบางกลุ่มเรียนจบปริญญาตรี ทำไรไม่เป็นเลย เสียค่าวิชาที่เรียนมานะคะ  ไม่รู้ทำไรให้สังคมได้บ้าง มันก็ดีค่ะ ไม่ยุ่งกับใคร และเตรียมตัวถ้าผัวตายก็กลับไทย เพราะ รวยก็แล้วไปค่ะ ไม่ต้องมาอ่านผ่าน ๆ ไปก็พอ  เห็นมาเยอะแระ บอกผัวรวย ไม่รู้รวยจริงแค่ไหน เงินบัญชีก็แยกกัน เขาให้ใช้เป็นเดือน ๆ ไป วันดีคืนดี ผัวบอกเลิก มีเมียใหม่ เด็กกว่า สวยกว่า ไปกันไม่เป็นเลย.  ถ้าเรามีงานการทำนะคะ  นอกจากผัวไม่ขอเลิก ยังจะเทิดทูนเราด้วยคะ เพราะเราดูและครอบครัวได้.  แฟนตัวเองนะคะ  ฮีจะแต่งงานกับใคร ฮีหวังเลย เมียฮีต้องดุและครอบครัวได้ถ้าฮีเป็นไรไป ดูแลลูก ๆ ได้ กลุ่มแบบ คุณนายสวยอย่างเดียว ไม่อยู่ในสายตา (แกบอกมาคะ แต่ไม่เชื่อหรอก ใครไม่ชอบคนสวย) . 

 

มีถ้าเรามีความมั่นใจและรู้จริงในสิ่งที่เรารู้ รู้บ้างก็โม้ ได้ เท่ากับที่เรารู้มา อย่าไปอ้างว่าตัวเองเก่ง รู้นั่นรู้นี่ซึ่งจริง ๆ เราไม่รู้อะไรเลย  มันน่าอายนะคะ ทุกอย่างตรวจสอบได้หมด แม้กระทั่งการศึกษาประวัติการทำงาน ทีแน่ ๆ เวลาเราไปทำงาน เขาจะรู้เลย ว่าเราขาดประสิทธิภาพอย่างมาก.

 

ทัศนคติในการทำงานปัจจุบัน

 

พอเราได้มาถึงจุดหนึ่งที่เริ่มอิ่มตัว แค่ทำงานปัจจุบันให้ดีที่สุดก็พอคะ  เทอมหน้าก็จะไปลงเรียน Visual Basic for Excel (VBA) ให้แข็งแรงมากขึ้น เพื่อจำได้ทำงานให้รวดเร็วขึ้น แม้ว่าตำแหน่งปัจจุบันจะเป็นผู้จัดการ แต่ ทำงานจริง คือ ออกแบบรายงานต่างๆ ให้กลุ่มค่ะ  พร้อมทั้งการคำนวณต่างๆ การแก้ปัญหาบางจุดที่ต้องใช้ทักษะด้านเทคโนโยลีคอมพิวเตอร์.  อยากพิสูจน์ตัวเองอีกระยะหนึ่งว่า เราทำได้แค่นั้นคะ และเราก็บอกให้คนอื่นรุ้ว่าเราไม่ได้คาดหวังกับตำแหน่ง สูงสุดในแผนก.  ตำแหน่งสูง สุดไม่ได้นำมาซึ่งความสุขสูงสุดเลย เงินอาจจะได้มากกว่า แต่เทียบกับการทำงานชัวโมงแล้วไม่ได้แตกต่างกันกับคนทำงานระดับกลางๆ ทำงาน 40 ชม.ต่อสัปดาห์เลย

 

ไม่ได้มองหางานใหม่อะไรคะ ยังไม่อยากเปลี่ยนแปลง ถ้าไปเริ่มงานใหม่ พักร้อนกว่าจะได้ ก็ต้องหาใหม่ กลับไทยยังไม่ได้อีก  ตอนนี้ที่ทำงานปัจจุบัน ทำงานได้เกือบ สามปีแล้ว พักร้อนก็ เกือบสามอาทิตย์แล้ว แม้ว่าจะไม่ได้เริดหนูเหมือนบางบริษัทแต่ก็พอได้.

 

ทำงานนี้เพราะ รักเพื่อนร่วมงานค่ะ กันเอง รู้ใจกัน เข้ากันได้ดี  (อิจฉากันไม๊ ไม่ทราบค่ะ) เราไม่ได้หวังจะไต่ปีนบันได  เรามีลูก มีครอบครัวไม่สามารถทำงาน วันละ 12 ชัวโมง และทำงานเสาร์อาทิตย์ได้.  เพื่อนร่วมงานสำคัญมากคะ ทำให้เราอยากไปทำงานทุกวัน ไปได้พบเจอพูดคุย แลกเปลี่ย นบทสนทนาระหว่างกัน พูดถึงเรื่องครอบครัวซึ่งกันและกัน.

 

อยากเก็บเรซูเม่ให้สวย ๆ สัก ระยะเวลาหนึ่งคะ จะได้ดูดี วันหนึ่งเมื่อเราออกมาทำธุรกิจของตัวเองแบบเต็มที่แล้วความรู้ในการทำงานจะได้ช่วยให้เราทำงานตัวเองมีประสิทธิภาพมากขึ้น.  เราจะมองเห็นสิ่งที่เกิดขึ้นในองค์กรขนาดใหญ่ การแก้ปัญหาของมืออาชีพในสถานการณ์ต่าง ๆ นำมาประยุกต์กับงานของเราและลูกค้าของเรา.  ธุรกิจที่ประสบความสำเร็จ ไม่ได้ดูที่ยอดรายรับอย่างเดียว  ดูที่ว่าสิ่งที่เราทำนั้นมีใจรักไม๊  เรามีความสุขหรือไม่.   บอกตรง ๆ ชอบงานที่ตัวเองทำ ทั้งงานประจำและ งาน เป็นที่ปรึกษาให้กับคนไทยด้วยกันนี่แหละคะ  โดยเฉพาะกลุ่มคนไทยที่ไม่ค่อยรู้จักการทำธุรกิจที่นี่ หลายๆ ครั้ง เราช่วยไม่ให้เขาถูกหลอก ถูกเอาเปรียบ  มันไม่ใช่แค่เงิน ที่เขาได้ประหยัด  มันหลายๆ อย่างค่ะ มันรวมถึง มิตราภาพ และ ศัตรู (อิอิ).    อันนี้พูดตรง ๆ เลยนะคะ ว่าไม่ได้คาดว่าจะมาได้จุดนี้ แรก ๆ แค่จะให้ความรู้คนอื่น ไว้เป็นวิทยาทานเฉยๆ.  ทุกอย่างเปลี่ยนแปลงตลอดเวลาค่ะ เวลาเปลี่ยนไปตลอดไม่หยุดนิ่ง  ถ้ายังไม่คิดทำอะไร ที่เพิ่มมูลค่าเพิ่มให้กับตัวเองและครอบครัว ควรจะเริ่มได้แล้วค่ะ. 

 

{{มีความหวังดีให้กับทุกคนที่ต้องการมีอาชีพ แต่ยังขาดความมั่นใจทุกคนค่ะ{{

 

ที่มา                   : ประสบการณ์ส่วนตัวล้วน เปลี่ยนงานบ่อย

 

เรียบเรียงโดย            : แหวนเพ็ชร วังคีรี โรลล์, ผู้สอบบัญชีรับอนุญาต (ไม่ใช่ทนาย ขอย้ำ)

 

วันที่                            : วันศุกร์ ที่ 11 พฤษภาคม พ.ศ. ๒๕๖๑ , Friday, May 11th  2018

 

 

Practitioners advising clients on the financial and tax consequences of entity alternatives is not viewed as a practice of law.  การให้คำปรึกษาแก่ลูกค้าถึงเกี่ยวกับทางภาษีอากรและการเงินเกี่ยวกับโครงสร้างกิจการ ไม่ถือว่าเป็นการ

ให้ทำปรึกษาด้านกฏหมาย

**I am not an attorney, this article is only for information and comments about taxes.**

**ดิฉันไม่ใช่ทนายค่ะ บทความนี้ทำเพื่อเผยแพร่ข้อมูลเกี่ยวกับกฏหมายภาษีอากรเท่านั้น.**